รวบสาวใหญ่ หนี 13 ปีไม่รอด ลักทรัพย์เพื่อนสนิทเสียหาย 2 ล้านบาท
1 min readกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.สรร มั่นเมืองรยา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.5บก.ป., พ.ต.ท.พงษ์พิทักษ์ เหล็กชูชาติ, พ.ต.ท.ฤทธิชัย ชุมช่วย, พ.ต.ท.หัตถพร ทองคำ, พ.ต.ท.หัตถพล ทองคำ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.สุขสิทธิ์ ประเสริฐ สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ชุดปฏิบัติการที่ 3 ร่วมกันจับกุม นางพิศสาครฯ อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ราชบุรี ที่ 354/ 2553 ลงวันที่ 2 ก.ค.2553 โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
สถานที่จับกุม ริมถนนหน้าบ้านพักคนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ม.6 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พฤติการณ์ เมื่อปี 2553 เดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนมิถุนายน 2553 นางจรัลฯ ผู้เสียหายได้ให้ นางพิศสาครฯ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมาพักอาศัยอยู่ด้วยที่บ้านพัก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เนื่องจากนางพิศสาครฯ ต้องการหาทำเลเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ซึ่งนางจรัลฯ ผู้เสียหายเห็นว่าบ้านพักหลังดังกล่าว
ของตนเองว่างไม่ได้พักอาศัย เพราะตนเองมีบ้านพัก 2 หลัง อยากช่วยเพื่อนสนิทให้มีรายได้ จึงให้นางพิศสาครฯ ใช้บ้านพักของตนเองเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว ปรากฏว่าเวลาผ่านไป 5 เดือน ระหว่างนั้นนางจรัลฯ ผู้เสียหายเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดไม่ได้กลับมาบ้านพักที่ให้นางพิศสาครฯ เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เมื่อกลับมาถึงพบว่า ที่ดินจำนวน 2 งาน, บ้านพักจำนวน 1 หลัง และวัวพันธุ์จำนวน 10 ตัว ของตนเองที่ให้นางพิศสาครฯดูแลแทนระหว่างมาเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวที่บ้านพักของตนเอง ถูกนางพิศสาครฯ นำไปขายต่อให้บุคคลอื่น จนหมด มูลค่าทรัพย์สินที่เสียหายประมาณ 2 ล้านบาท จึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อให้ดำเนินคดีกับนางพิศสาครฯ กับพวกรวม 6 คน ที่รับซื้อทรัพย์สินของตนเองจากนางพิศสาครฯ ต่อมาศาลอนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีนี้ได้ 5 คนเหลือเพียงนางพิศสาครฯ เพียงคนเดียวที่หลบหนีไป 13 ปี ยังไม่ถูกจับกุม กระทั่งวันนี้ 30 มี.ค.2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สืบสวนทราบว่า นางพิศสาครฯ ผู้ต้องหาหลบหนีมาพักอยู่บ้านพักคนงานก่อสร้างแห่งหนึ่ง ม.6 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงไปตรวจสอบพบตัวขณะเดินเข้าบ้านพัก จึงจับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การภาคเสธ โดยรับว่าตนเองไปขอใช้พื้นที่บ้านพัก
ของนางจรัลฯ เพื่อนสนิทที่ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวจริง แต่ไม่ได้นำที่ดิน บ้านพัก
และวัวพันธุ์ของนางจรัลฯ ไปขายแต่อย่างใด แต่มีเพื่อนของตนเองเป็นคนจัดการเรื่องการขายทรัพย์สินของนางจรัลฯ ซึ่งถูกออกหมายจับในคดีนี้ด้วย ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด ตรวจสอบประวัติคดีอาญาของนางพิศสาครฯ พบว่าเมื่อปี 2551 ถูกออกหมายจับคดีหลอกแรงงานไปทำงานต่างประเทศ จำนวน 6 หมายจับ แต่หลบหนีการจับกุมเรื่อยมา จนหมายจับหมดอายุความไปหมดแล้ว ซึ่งขณะหลบหนีจึงไป ขอพักอาศัยบ้านพักนางจรัลฯ ผู้เสียหายแล้วก่อเหตุในคดีนี้