“หมอแว” อดีตผู้ต้องหา เจ.ไอ.เปิดใจสู่เส้นทางการเมืองหลังลุงป้อมชวนเข้าพรรค

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 4 เม.ย.66 นายแวมาฮาดี แวดาโอะ อดีต ส.ส.นราธิวาส และอดีตผู้ต้องหาคดี เจ.ไอ. ซึ่งเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ได้ลงพื้นที่หาเสียงภายในหมู่บ้านลุโบะบายะ จำนวน 5 หมู่บ้าน ต.ลุโบะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ด้วยรถหาเสียง 1 คัน ในการตระเวนเดินเท้าไปยังบ้านเรือนของประชาชน มีทั้งผู้ป่วยวัยชรา ชาวบ้านที่เคยประกอบอาชีพร้านต้มยำกุ้งในประเทศมาเลเซีย รวมทั้งที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลลุโบะบายะ ในการพูดคุยถึงนโยบายของพรรค เพื่อปลดทุกข์จากความยากจน รวมทั้งการรื้อฟื้นนโยบายด้านสาธารณสุข ที่ประชาชนทุกคนสามารถจะเห็นเป็นรูปธรรมได้ หากเลือกตั้งเข้าไปนั่งในสภา ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาได้มีตำแหน่งทางการเมือง แต่ไม่สามารถที่จะต่อยอดนโยบายได้เป็นรูปธรรมจากปัญหาการหลายประการ หากเลือกตนหรือพลังพลังประชารัฐได้ชัยชนะเป็นเสียงข้างมาก ตนก็จะสามารถผลัดดันนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาระดับรากหญ้าได้ โดยเฉพาะในเรื่องด้านสาธาณสุข ซึ่งการเดินเท้าหาเสียงของนายแวมาฮาดี ในครั้งนี้ ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างเห็นได้ชัด โดยชาวบ้านบางครอบครัวยังได้มีการหยิบยื่นอาหารคาวหวานให้นายแวมาฮาดี ได้นำไปเปิดละศีลอดในช่วงเย็น และได้ถือโอกาสขอบคุณที่ได้เดินทางมาเยี่ยมชาวบ้าน

    ด้านนายแวมาฮาดี เปิดเผยว่า ผมอดีตเป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคง หลังจากทำงานภาคประชาสังคมก็ถูกอุ้ม สิ่งที่ผมจะทำประโยชน์ต่อสังคมดีที่สุด คือการเอาความคิดในด้านการยกระดับด้านสาธารณสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีปัญหามากที่สุดในด้านสุขภาพมากที่สุดในประเทศไทย ผมเลยติดต่อกับสถานฑูตคิวบาเพื่อที่จะขอทุน 1,000 ทุน ให้กับนักศึกษาที่นี่เพื่อไปเรียนแพทย์ และเพื่อจะมาประจำที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลต่อไป แต่มีเงื่อนไขคือจะเชื่อมกับรัฐบาลให้ได้ ก็เลยมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อมาดูแลด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีเงื่อนไขว่าถ้าจะให้มาทำงานการเมืองอีกครั้ง ขอให้ดำเนินการเรื่องทุนหมอ 1,000 คน โดยได้ประสานกับทาง ศอ.บต.ทันที และจัดทำโครงการแพทย์ 1,000 คน ให้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และถูกบรรจุในนโยบายของแผนงานที่จะทำภายในปีนี้ โดยจัดทุนการศึกษาแพทย์ยังคน 4 จังหวัดกับ 4 อำเภอ ศึกษาแพทย์ในประเทศคิวบา โดยที่รัฐบาลเห็นด้วยและดำเนินการต่อ และสุดท้ายพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ขอให้ลงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 ในจังหวัดนราธิวาสเพื่อทดแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลาออกจากพรรค ซึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐยังไม่มีใครที่มีความชำนาญด้านการศึกษาและด้านสาธารณสุข เพราะฉะนั้นผมคิดว่ามันมีประโยชน์ต่อสังคม จึงยอมลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้