สืบ ตม.1 รวบหนุ่มแซมเบียสายจู๊ก หลังเจอ ตม.รีบวิ่งหนี สุดท้ายเจ้าหน้าที่ไวกว่าตามตะครุบทันควัน
1 min readตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
ต่อมา กก.สืบสวน บก.ตม.1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1 พ.ต.อ.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 และ พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 ขณะที่ ว่าที่ พ.ต.ต.เจตน์ ยุทธโยธิน ว่าที่ พ.ต.ต.สวรรค์ ราชพิทักษ์ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 , ร.ต.อ.วีรพงศ์ แก้วเล็ก รอง สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 นำกำลังรวม 6 นาย ออกตรวจตรา โดยสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับบุคคลต่างด้าวที่ Overstay ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ บริเวณเขตพื้นที่ บก.น.4
ซึ่งได้เฝ้าสังเกตการณ์กลุ่มบุคคลต่างชาติที่มีลักษณะต้องสงสัยว่า จะอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายบริเวณที่พักย่านนวมินทร์ คจนกระทั่งพบเป้าหมายบุคคลผิวสี ลักษณะคล้ายบุคคลต่างชาติมีท่าทีมีพิรุธต้องสงสัย รีบขึ้นรถยนต์ขับออกไปจากที่พักอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ติดตามไปอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งบุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวแวะจอดในปั๊มแห่งหนึ่งย่านห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอแลนด์ จึงเข้าแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมแสดงบัตรข้าราชการตำรวจให้ทราบเพื่อขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ที่แสดงการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร แต่ไม่ทันที่คนต่างด้าวจะฟังจบได้อาศัยจังหวะรีบวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไป
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ จึงได้วิ่งไล่ติดตามจับกุม โดยหนีไปไกลกว่า 200 เมตร จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ ตม. จึงได้ช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าไม่ได้พกหนังสือเดินทางติดตัวมาด้วย แต่กลัวถูกตรวจสอบ จึงได้อาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีไว้ก่อน และยังได้แจ้งว่าตัวเองชื่อเลโอนาโด้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เชื่อ และแจ้งให้เพื่อนหรือญาตินำหนังสือเดินทางมาแสดง แต่ไม่มีผู้ใดนำมาแสดง จึงได้แจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบ ในเบื้องต้นว่าจะต้องถูกจับกุม ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองฯ พร้อมแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ หลังจากนั้นจึงค้นตัวผู้ต้องหาเพื่อหาพยานหลักฐานยืนยันตัวบุคคล พบใบขับขี่ต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 สตม. จึงได้ตรวจสอบผ่านระบบสารสนเทศ สตม. พบว่าบุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวชื่อ MR.Ed (นามสมมติ) สัญชาติแซมเบีย อายุ 40 ปี เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 2557 โดยวีซ่านักท่องเที่ยว ปัจจุบันอยู่ในราชอาณาจักรเกินกำหนด (Overstay) จำนวนเกือบ 3000 วัน หรือประมาณกว่า 7 ปี เดือน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อเท็จจริงให้ทราบว่าต้องถูกจับ ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด(Overstay)และจัดทำบันทึกจับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางชัน
เจ้าหน้าที่ ฯ จะได้ดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไปว่า นาย Ed เข้ามาทำการใดที่ผิดกฎหมาย หรือเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่ ก่อนลงระบบแบล็คลิสต์ และผลักดันกลับประเทศต่อไป
ดังนั้น สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแส การกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ
สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด
จังหวัดนนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สมเกียรติ ทรัพย์ฉลิม / รายงาน