พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ นำทีมผู้สมัครทั้ง 10 เขตขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.ชลบุรี มีประชาชนร่วมฟังกว่า 2 หมื่นคน
1 min readเมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 พ.ค.พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรคฯได้เดินทางไปขอคะแนนเสียงพร้อม น.ส.ณภัสนันท์ (แยม) อริทคุณวงษ์ ผู้สมัคร สส.เขต 1 เบอร์ 9 ที่ตลาดหนองมน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรีใช้เวลาเดินหาเสียงประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นเข้าพบผู้สมัคร สส.ทั้ง 10 เขตที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ
เวลา 17.30 น.ได้เดินทางมาที่เวทีสนามหน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี โดยมีประชาชนเข้ามานั่งฟังจำนวนกว่า 2 หมื่นคน มีการแนะนำตัวผู้สมัครทั้ง 10 เขต และให้ผู้สมัครได้พูดคุยทักทายประชาชน และต่ มาได้มีปราศรัยโดยเริ่มจากนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค,นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค,และคนสุดท้ายที่ขึ้นปราศรัยคือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า นโยบายของพรรค รทสช.มี 16 นโยบาย
1.เพิ่มรายได้ประเทศไทยปีละ 4 ล้านล้านบาท คือ เศรษฐกิจโตปีละ 5% รายได้ต่อคนเพิ่มขึ้นปีละ 20,000 บาท สร้างงานเพิ่ม 6.25 แสนตำแหน่ง
2.เพิ่มศักยภาพประเทศไทยคือพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย, ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) และระเบียงเศรษฐกิจใหม่ 4 ภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางภูมิภาคประเทศสู่อาเซียนและจีนตอนใต้, พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล, สร้างความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ
3.ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและกระจายเม็ดเงินถึงคนตัวเล็ก คือ ไฟฟ้าราคาถูกสำหรับผู้มีรายได้น้อย, คนละครึ่งภาค 2, เที่ยวด้วยกันเมืองรองภาค 2, เพิ่มเงินสมทบของรัฐให้แรงงานในระบบประกันสังคมมีรายได้ไม่ต่ำกว่า เพิ่มเงินสมทบของรัฐให้แรงงานในระบบประกันสังคมมีรายได้ไม่ต่ำกว่าคนละ 10,000 บาทต่อเดือน
4.กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากช่วยเหลือเกษตรกรและชาวประมง คือ นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรีเพื่อลดราคาน้ำมัน, โครงการโคล้านครอบครัว ในปีแรกจะมีโค 4 ตัว ปีที่ 2 กลายเป็นโค 6 ตัว ปีที่ 3 จะกลายเป็นโค 10 ตัว นี่คือโครงการที่จะทำให้ประชาชนจับเงินแสนได้ด้วยวิธีง่าย ๆ แต่ถ้าอยากจับเงินล้าน เลี้ยงโคไปถึง 6 ปี จะมีโคทั้งสิ้น 42 ตัว จะเป็นเงิน 1,050,000 บาท, ลดต้นทุนเกษตรกรช่วยค่าเก็บเกี่ยวไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 5 ไร่, ปุ๋ย ไฟฟ้า และน้ำมันราคาถูกสำหรับเกษตรกร และแก้กฎหมายประมงดูแลประมงพื้นบ้าน ปรับการทำงานของหน่วยงานของรัฐให้เป็นธรรม
5.สร้างโอกาสให้คนตัวเล็กด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล คือ เน็ตประชารัฐ, พร้อมเพย์, แอปเป๋าตัง, แอปถุงเงิน, แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ, ดาต้าเซ็นเตอร์ระบบคลาวด์ 6.แก้หนี้ คือ แช่แข็งหนี้ สูงสุด 3 ปีตามเงื่อนไขโครงการแก้กฎหมายเครดิตบูโร ให้ความเป็นธรรมแก่ลูกหนี้ แก้หนี้นอกระบบ และมีที่พึ่งยามยากด้วย “กองทุนฉุกเฉินประชาชน” 3 หมื่นล้านบาท, สมาชิกสหกรณ์ใช้หุ้นสหกรณ์ชำระหนี้สหกรณ์ได้ และใช้เป็นหลักประกันเงินกู้ข้ามเขตสหกรณ์ได้, แก้หนี้โควิดจบใน 12 ปี และแก้หนี้ กยศ. แก้หนี้กองทุนหมู่บ้าน และหนี้ภาครัฐด้วยงาน
7.กองทุนฉุกเฉินประชาชนวงเงิน 30,000 ล้านบาท เป็นที่พึ่งยามลำบากให้ประชาชนปลดพันธนาการเงินนอกระบบ
8.ประกันสังคมทั่วหน้าทุกอาชีพคืนเงินสะสมชราภาพ 30% ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ผู้ประกันตนสามารถนำเงินสะสมมาใช้ก่อนยามจำเป็น ซึ่งเงินในส่วนนี้ไม่ใช่งบประมาณแผ่นดิน แต่เป็นเงินของกองทุนประกันสังคม พร้อมทั้งเพิ่มเงินชราภาพ อายุ 55 ปี เป็น 10,000 บาท เพิ่มสิทธิด้านเงินดูแลบุตรให้แก่ผู้ประกันตนสูงถึง 1,000 บาท ตั้งแต่เกิดจนถึงอายุ 10 ปี ให้เงินเกษียณอายุ 55 ปี 10,000 บาท เพื่อเพิ่มความมั่นคงหลังเกษียณให้มีเงินเพียงพอต่อค่าครองชีพในปัจจุบัน ปีแรก 28,597 ล้านบาท ปีต่อไป เพิ่มขึ้นปีละประมาณ 20%
9.เข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข 1 อำเภอ (เขต) 1 โรงพยาบาลวิสาหกิจเพื่อสังคม, 1 ศูนย์ผู้สูงอายุคนพิการและผู้ป่วยโรคร้ายระยะสุดท้าย
10.ดูแลกลุ่มเปราะบาง เบี้ยผู้สูงอายุคนละ 1,000 บาท เท่ากัน ทุกช่วงของอายุ, เพิ่มเงินช่วยดูแลบุตรแรกเกิดถึง 10 ปี จากเดิม 800 บาท เป็นเดือนละ 1,000 บาทจากเดิม 800 บาท (สำหรับแรงงานในระบบประกันสังคม)มีประมาณ 12 ล้านคน
11.ลดค่าของชีพ นำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปเสรี, ไฟฟ้าราคาถูกสำหรับเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย, โครงการแท็กซี่เพื่อสังคม, ลดหย่อนภาษีค่ารักษาพยาบาลตนเองและพ่อแม่สูงสุด 60,000 บาท และออมเงินพร้อมหักลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน LTF
12.บัตรสวัสดิการพลัส เพิ่มสิทธิเดือนละ 1,000 บาท/คน, กู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท/คน
13.สร้างโอกาสเด็กไทยคงการอยากเรียนอะไรต้องได้เรียน, ทุนการศึกษาอาชีวะ 100 ทุนต่อ 1 อำเภอ (เขต) ทุนละ 10,000 บาท, โครงการเรียนจบมีงานทำ
- รื้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคการทำกิน แก้กฎหมายได้ที่ทำกิน ไม่โดนไล่ที่ ไม่ถูกฟ้อง, พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความสะดวกลดขั้นตอนทางกฎหมาย 1,100 ขั้นตอน
15.ลดฝุ่น PM 2.5 ตั้งศูนย์บัญชาการแก้ปัญหามลภาวะเป็นพิษแบบ Single Command รวม PM 2.5, เพิ่มรถเมล์ไฟฟ้า, ส่งเสริมรถอีวี, ใช้มาตรฐานยูโร 5 กับรถใหม่ตั้งแต่ 1 ม.ค. 67 และเพิ่มการใช้พลังงานสะอาด 50%
16.พัฒนาที่อยู่อาศัย ต่อยอดโครงการ “บ้านสุขประชา” มีบ้านมีงานทำ, สินเชื่อบ้านล้านหลังสำหรับผู้มีรายได้น้อย เฟสที่ 3, บ้านมั่นคงริมคลองเปรมประชากร, ฟื้นฟูแฟลตดินแดง เฟส 2
ทั้งนี้ยังมีนโยบายพร้อมทำ 10 นโยบาย และสำหรับนโยบายที่ “พร้อมทำ” 10 นโยบาย ประกอบด้วย
1.เพิ่มสิทธิบัตรสวัสดิการพลัส เพิ่มสิทธิเดือนละ 1,000 บาท/คน, กู้ฉุกเฉิน 10,000 บาท/คน
2.ตั้งกองทุนฉุกเฉินประชาชน วงเงิน 30,000 ล้านบาท
3.คืนเงิน 30% เงินสะสมชราภาพผู้ประกันตน มาตรา 33
4.แก้หนี้แช่แข็งหนี้ปลดหนี้ด้วยงาน
5.รื้อกฎหมาย ที่รังแกประชาชนและที่เป็นอุปสรรคการทำกิน
6.ลดหย่อนภาษี ค่ารักษาพยาบาลตนเองและพ่อ แม่รวมสูงสุด 60,000 บาท
7.เบี้ยตอบแทน อปพร. คนละ 1,000 บาท/เดือน
8.ออมเงินพร้อมลดหย่อนภาษีด้วยกองทุน LTF
9.ลดต้นทุน เกษตรกร ปุ๋ย น้ำมัน ไฟฟ้า ราคาถูก
10.ไม่เลิกเงินบำนาญ ให้ข้าราชการเลิกเงินสมทบ กบข. ได้ก่อน 30%