ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบสมาชิกขบวนการนักค้ายานรกส่งขายผ่านขนส่งไปเครือข่ายภาคใต้

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์แสงนุ่ม รอง.บช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง, พ.ต.อ.ณัฐวัฒน์ เกศะรักษ์, พ.ต.อ.ภาคภูมิ
ศรีลาภะมาศ, พ.ต.อ.อนุวัฒน์รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว, พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์
แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ไพรัช พรมวงศ์และ พ.ต.ท.เอก มหาสวัสดิ์รอง ผกก.1 บก.ปคบ.

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.1 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ร่วมกันจับกุม นายพรหมศรฯ อายุ 23 ปีที่ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ 323/2565 ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด ให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือ
ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยผิดกฎหมาย” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านพัก แขวงหนองแขม เขตหนองแขม กรุงเทพฯ

พฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อเดือนตุลาคม 2564 เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดปัตตานีได้จับกุมขบวนการค้ายาเสพติดพร้อมของกลาง ยาบ้า 600,000 เม็ด และมีการสืบสวนขยายผลพบมีผู้ร่วมขบวนการหลบหนีอีก 6 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 สำนักงาน ป.ป.ส. ได้เข้าปิดล้อมจับกุม นายพัศพงศ์ฯ อายุ 25 ปีผู้บงการสั่งการจัดส่ง “ยาเสพติด”
ผ่านบริษัทขนส่งเอกชนไปให้กับเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินรวมมูลค่า 14.6 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราบสืบสวนทราบว่า นายพรหมศรฯ หนึ่งในผู้ต้องหาในขบวนการค้ายาเสพติด กลุ่มนี้ยังหลบหนีอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงประสานกับ กก.1 บก.ปคบ. ให้เร่งรัดติดตามผู้ร้ายสำคัญรายนี้ให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองถือเป็นบุคคลอันตราย ก่อเหตุโดยไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง

ภายหลังเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาหลบหนีมากบดานในพื้นที่เขตหนองแขม กรุงเทพฯจึงได้ระดมกำลังทำการสืบสวนในพื้นที่ จนกระทั่งสามารถทำการจับกุมนายพรหมศรฯ จากนั้นนำผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ร่วมขบวนการ รับเพียงว่าตนมีหน้าที่เป็นผู้จัดส่งพัสดุ ซึ่งได้ค่าจ้างเป็นสิ่งตอบแทน และจำไม่ได้ว่าส่งมาแล้วกี่ครั้ง