ตำรวจไซเบอร์รวบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจบุรีรัมย์ หลอกเหยื่อโอนเงิน 1.8 ล้าน
1 min read เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คําชํานาญ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รองผบช.สอท. พล.ต.ต.ไพโรจน์ สุขรวยธนโชติ รองผบช.สอท. สั่งกาารให้ พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ชัยพันธุ์ ทัพวงษ์ รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.เอกวีร์ พงศ์สร้อยเพ็ชร รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.บัญชา ศรีสุข รอง ผบก.สอท.5, พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.ศุภกร ธัญญกรรม ผกก.1 บก.สอท.5 จับกุมตัวน.ส.ปราถนา บุญเวียง อายุ 44 ปี ที่อยู่ 16/2 ม.1 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1134/2566 ลงวันที่ 11 เมษายน 2566
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายถูกคนร้ายโทรมาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ แจ้งว่ามีการเอาข้อมูลผู้เสียหายไปเปิดใช้บัตรเครดิตและค้างชำระ ให้ผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์โดยให้โอนสายไปยังคนร้ายที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองบุรีรัมย์ จากนั้นได้ให้ผู้เสียหายแอดไลน์ชื่อ สถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ และได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาคนร้ายได้โอนสายให้ผู้เสียหายพูดคุยกับผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย เพื่อให้ผู้เสียหายหลงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่สนทนากันเป็นเรื่องจริง ซึ่งคนร้ายได้หว่านล้อมข่มขู่ผู้เสียหายให้เกิดความกลัวว่าจะต้องถูกดำเนินคดี โดยผู้เสียหายต้องโอนเงินเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ จากพฤติกรรมของคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว จึงทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีของกลุ่มคนร้ายหลายครั้ง ผู้เสียหายเห็นว่าผิดปกติ เชื่อว่าถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวง จึงแจ้งความดำเนินคดี และมีผู้เสียหายรวมกว่า 1,876,000 บาท
จากการสืบสวนทราบว่า น.ส.ปราถนา พักอาศัยในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ และเข้าจับกุม น.ส.ปรารถ ยอมรับว่าได้เปิดบัญชีให้บุคคลอื่นจริง จึงแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท.5 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Loading…