ศุกร์. พ.ย. 29th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ร้อง “บิ๊กโจ๊ก”ช่วยเร่งรัดคดี หนุ่มหลอกให้รัก ก่อนหลอกดาวน์รถ สาวตกเป็นเหยื่อกว่า 20 ราย

1 min read

ทนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พากลุ่มหญิงสาวผู้เสียหาย เข้าร้องเรียนต่อพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สโมสรตำรวจ เพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดคดีกรณีที่ถูกนายจิรากร เฉลยสุข หรือใช้ชื่อปลอมว่า เต้ อาคม คัมภิรานนท์ อายุ 39 ปี มาหลอกคบหาเป็นแฟน ก่อนหลอกให้ช่วยเช่าซื้อรถเก๋ง / รถกระบะ / รถจักรยานยนต์ป้ายแดง คนละหลายคัน โดยอ้างว่าทำธุรกิจปล่อยเช่ารถก่อนจะเชิดรถหลบหนีไป ทำให้ผู้เสียหายถูกไฟแนนซ์รถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายหลักล้าน มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาว 19 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามแล้ว

โดยทันทีที่ผู้เสียหายได้เจอกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ก็ได้เดินเข้ามาหาพร้อมจะก้มกราบ แล้วบอกว่า ขอให้ช่วยเหลือด้วย เพราะได้รับความเดือดร้อน และมีแม่ของผู้เสียหายบางรายที่เครียดจนถึงขั้นฆ่าตัวตายไปแล้ว

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า เนื่องจากกรณีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ไม่ใช่แค่โรงพักเดียว และจนถึงขณะนี้ก็ยังมีผู้เสียหายที่ทยอยติดต่อมาเรื่อยๆ วันนี้ก็มีผู้เสียหายรายใหม่อีก 3 รายที่เดินทางมา จึงต้องการให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ช่วยติดตามความคืบหน้า นอกจากนี้ ยังมีข้อสงสัยว่า การที่รถจำนวนกว่า 50 คันที่มีการนำไปขายนำไปใช้มาตั้งแต่ปี 2559 แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังตามไม่เจอเลยนั้น เป็นเพราะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ จึงต้องการให้มีการสืบสวนขยายผลเรื่องนี้ด้วย นอกจากการจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับสังคม ไม่ใช่แค่ผู้เสียหาย

หนึ่งในผู้เสียหาย เป็นพยาบาลวัย 32 ปีที่จังหวัดขอนแก่น เล่าว่า ตนรู้จักกับผู้ต้องหาผ่าน Facebook Dating ผู้ต้องหาอ้างว่าทำอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน มีหน้าที่การงานมั่นคง และก็เข้าหาตนด้วยการคุยเกี่ยวกับสายงานสาธารณสุข รู้ภาษาทางการแพทย์ มีความรู้ด้านการใช้ยา การดูแลผู้ป่วย จึงทำให้ตนเชื่อสนิทใจ และตัดสินใจคบหาจนไว้ใจร่วมลงทุนตามที่ถูกชักชวน โดยผู้ต้องหาให้ตนออกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ให้ 1 คัน และรถยนต์อีก 1 คัน รวมถึงยังขอยืมเงินสดอีก 3.5 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหาย 5.9 ล้านบาท ในระยะเวลา 2 ปี

ผู้เสียหายอีกราย เป็นพยาบาลวัย 33 ปีที่จังหวัดขอนแก่นเช่นเดียวกัน บอกว่า ตนโดนหลอกและถูกเข้าหาในลักษณะเดียวกันกับผู้เสียหายรายก่อนหน้า โดยผู้ต้องหาบอกว่า มีปัญหากับเพื่อนที่ทำธุรกิจรถเช่าอยู่ด้วยกัน จึงอยากแยกออกมาทำเอง และต้องการทำร่วมกับตนเป็นธุรกิจครอบครัว ตนจึงหลงเชื่อออกรถให้รวมทั้งหมด 6 คัน รวมมูลค่า 6.9 ล้านบาท และเพิ่งมารู้ตัวตอนที่ถูกไฟแนนซ์ทวงเงิน

ขณะที่ผู้เสียหายอีกราย วัย 21 ปี บอกว่า กรณีของตนนั้นไม่ได้ถูกเข้าหาในเชิงชู้สาว แต่ผู้ต้องหามาจีบเพื่อนตน จึงมีการไปกินไปเที่ยวด้วยกัน ผู้ต้องหาก็เข้ามาพูดคุยกับตน อ้างว่าเป็นตำรวจ ปส. มีการทำธุรกิจรถเช่า และได้ชักชวนให้ตนออกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ให้ ซึ่งงวดแรกๆ ผู้ต้องหาก็จ่ายตรงตามกำหนด และมาบอกว่า ถ้าตนออกรถให้อีก ตนก็จะได้เครดิตดี ก็เลยหลงเชื่อ ออกรถกระบะให้อีก 1 คัน รวมมูลค่า 2 ล้านบาท

ด้านพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีนี้ ผู้เสียหายได้ติดต่อไปยังรายการโหนกระแส จึงแนะนำให้มาร้องเรียนกับตน ซึ่งทราบว่ามีการแจ้งความกันมาตั้งแต่ปี 2559 แต่ไม่มีความคืบหน้า ตนก็จะไปไล่เรียงติดตามกับโรงพักเจ้าของพื้นที่ให้ พร้อมฝากเตือนประชาชนว่า ปัจจุบันการหลอกลวงในรูปแบบของการให้จำนำรถ / เช่าซื้อรถ โดยเข้าหาเชิงชู้สาวนั้นมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งแม้จะสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาและยึดทรัพย์มาคืนได้ แต่กระบวนการทั้งหมดก็ต้องใช้เวลา ดังนั้น จึงต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกหลอก ต้องมีสติ

Loading…

More Stories

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.