“หลวงตา”สะอื้น!! หลานอยู่บ้านไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง สงสัยคลั่งยาบ้า
1 min read
เมื่อกลางดึก วันที่ 7 มกราคม 2563 พ.ต.ต.กฤชฐา ปทุมแก้ว สารวัตรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน บ้านเลขที่ 9 ม. 6 บ้านกุดคร้า ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ พร้อมด้วยนายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอกบินทร์บุรี และประสานรถน้ำรถดับเพลิงจาก อบต.หนองกี่ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมแห่งประเทศไทยเข้าระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้บ้านหลังดังกล่าว เป็นบ้านแฝดทำด้วยไม้และปูนภายในมีทรัพย์สินจำนวนมากและเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีไฟได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และกำลังจะลุกเข้าบ้านที่อยู่ข้างเคียง ท่ามกลางชาวบ้านที่กำลังจะหลับนอนสร้างความแตกตื่นออกมามุงดูเป็นจำนวนมาก รถดับเพลิงจำนวน 3 คันช่วยกันฉีดน้ำเพื่อสกัดไฟไม่ให้ลุกลามไปยังบ้านข้างเคียง ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดแต่ก็เผาผลาญวอดเสียหายทั้งหลัง
ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ได้มีพระปี เจียงลา อายุ 75 ปี พระลูกวัดบ้านโคกสั้น ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เมื่อทราบข่าวไฟไหม้บ้านของตัวเองจึงรีบออกมาดู เมื่อเห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านที่สร้างด้วยหยาดเหงื่อก่อนที่จะหนีไปบวชและบ้านได้ให้ลูกสาวและหลานชายอยู่ถึงกับลมจับ ตำรวจต้องประครองร่างและปอบใจพระปีว่าให้ทำใจดีๆก่อนที่จะให้การจับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสอบถามหาสาเหตุ
พระปี เจียงลา กล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าว ได้ให้นางอุไร เจียงลา อายุ 50 ปี ลูกสาว พร้อมด้วยหลานชายคือนายวุฒิชัย อายุประมาณ 30 ปีอยู่ ขณะเกิดเหตุลูกสาวไม่อยู่ไปทำงานที่ฟาร์มไก่แห่งหนึ่ง เหลือเพียงหลานชายอยู่และเคยต้องโทษคดียาเสพติด และออกจากคุกมาอยู่บ้านหลังดังกล่าว ส่วนสาเหตุคาดว่าจะเกิดจากอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาหรือไม่ ขณะเกิดเหตุได้หายหน้าไป ส่วนมูลค่าเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กันพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี เข้าตรวจสอบและหาหลักฐานอย่างละเอียด พร้อมกับติดตามตัวนายวุฒิชัยมาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
สายชล หนูแดง ยุทธพงษ์ ป้อมเพร ปราจีนบุรี/ข่าว-ภาพ