รองเลขาฯ ศอ.บต. พบ สื่อมวลชน 3 จชต. แลกเปลี่ยนมุมมองการสื่อสารสร้างความเข้าใจ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งในระดับพื้นที่ ส่วนกลาง และการสื่อสารระดับนานาชาติ
1 min readรองเลขาฯ ศอ.บต. พบ สื่อมวลชน 3 จชต. แลกเปลี่ยนมุมมองการสื่อสารสร้างความเข้าใจ โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งในระดับพื้นที่ ส่วนกลาง และการสื่อสารระดับนานาชาติ
วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับสื่อมวลชนจากพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดยนายสุไลมาน แวมามะ นายกสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะสื่อมวลชนจากจังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส เพื่อหารือแนวทางการนำเสนอข้อมูลข่าวสารด้านการประชาสัมพันธ์ต่อการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ ห้องประชุมเจริญจิตต์ ณ สงขลา ศอ.บต.
โดยการหารือคณะสื่อมวลชนได้มีการสะท้อนปัญหาด้านการสื่อสารและเสนอแนะแนวทางการสร้างความเข้าใจทั้งนโยบายของรัฐบาลและประเด็นเชิงรุก เพื่อให้เกิดการสื่อสารที่ดีไปยังพี่น้องประชาชนในกิจกรรม โครงการด้านการพัฒนารวมถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความหลากหลาย รอบด้าน ยึดหลักความถูกต้องและข้อเท็จจริงเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่
ในการนี้นายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ ศอ.บต. ได้มีการเสนอแนะที่จะจัดตั้งรังนกกระจอก โดยใช้คำว่า ศูนย์ปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร ซึ่งจะเป็นฐานที่ตั้งส่วนกลางของสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อการดำเนินงานตามบทบาทหน้าที่ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องไปยังประชาชนได้อย่างรวดเร็วต่อไป
นอกจากนี้จะมีการเตรียมจัดทำแผนการสร้างความเข้าใจโดยนำสื่อมวลชนทุกแขนงที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและความคิดเห็น เพิ่มทักษะองค์ความรู้แนวทางการนำเสนอข่าวสาร การเขียนข่าวที่ถูกต้อง เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจ กับทุกภาคส่วน ทั้งในระดับพื้นที่ ระดับส่วนกลาง และการสื่อสารระดับนานาชาติ ผ่านกลุ่มเครือข่ายอาทิ บัณฑิตพัฒนามาตุภูมิ ซึ่งเป็นเครือข่ายของศอ.บต. ที่มีกว่า 2,000 คน ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มผู้นำศาสนา อีหม่ามประจำมัสยิดในแต่ละพื้นที่ ตลอดจนกลุ่มอาสาสมัครของหมู่บ้าน ที่มีบทบาทต่อพี่น้องประชาชนทำหน้าที่ในการเป็นกระบอกเสียงกระจายข้อมูลข่าวสารสร้างความเข้าใจในนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ให้ครอบคลุมทุกมิติที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและยอมรับที่จะให้ความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของหน่วยงานราชการมากที่สุด เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะรองรับแนวทางการสื่อสารตามรัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้