“อัจฉริยะ”พาตำรวจชลบุรี 4 นาย ดำเนินคดี”สารวัตรต้า”

อัจฉริยะ แฉเบื้องหลังเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวคดีเรียกทรัพย์ 140 ล้านบาท เปิดปมหักหลังระหว่างเครือข่าย ร้อง ปปป. ตรวจสอบตำรวจไซเบอร์ ระดับ สารวัตรร่วมวางแผนออกหมายค้นพยาน ก่อนนำไปสู่การเรียกทรัพย์สิน


นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมตำรวจชลบุรี 4 นาย ที่มีรายชื่ออยู่ในชุดเรียกทรัพย์ 140 ล้านบาท มาร้องทุกข์กล่าวโทษ สารวัตรต้า สังกัดกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยอ้างว่าเป็นผู้ร่วมวางแผนในการออกหมายค้นบ้านพักของเครือข่ายเว็บพนันในจังหวัดชลบุรี ซึ่งระบุว่าเป็นเครือข่ายของตำรวจที่ชื่อแจ็กกี้ เป็นเพื่อนร่วมรุ่นกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และรองผู้การจังหวัดชลบุรีอีกคน
โดยสารวัตรต้า ร่วมกับตำรวจอีก 3 นาย สร้างพยานหลักฐานเท็จ นำไปสู่การเรียกทรัพย์จากนายเป้ สำหรับตำรวจทั้ง 4 นายที่เดินทางมาด้วยในวันนี้มีชื่อปรากฏในรายงานการสืบสวน และเข้าตรวจค้นจับกุม แต่ยืนยันทำไปตามหน้าที่ไม่ได้มีส่วนกับการเรียกทรัพย์สิน

ส่วนแผนผังที่นำมาเปิดเผยในวันนี้ นายอัจฉริยะ อ้างว่าเป็น แผนพฤติการของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเผยว่าต้นเหตุที่แท้จริงคือปัญหาภายในเครือข่ายเว็บการพนัน นายเจ ที่เคยเป็นหุ้นส่วนนายเป้ ได้แยกตัวออกมาทำเว็บพนันเอง และนำข้อมูลทั้งหมดไปแจ้งกับ เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ จะส่งต่อข้อมูลให้กับนายต้น ที่เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในชุดของอดีตผู้บังคับหารจังหวัดชลบุรี เรียกทรัพย์สินนายเป้ 140 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าว โดยในขบวนการนี้มีทั้งตำรวจ ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี และเจ้าหน้าที่รัฐ ร่วมถึงนักข่าว เข้ามาเกี่ยวข้อง จึงได้นำหลักฐานทั้งหมดมามอบให้กับพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตรวจสอบข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ ยังพบว่า ตำรวจชุดทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล นำเงินที่ได้มาจากเครือข่ายเว็บการพนัน ติดต่อเช่าพระกับเซียนพระคนหนึ่งในจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อฟอกเงิน ซึ่งเป็นเซียนพระคนเดียวกับที่ นายบอย นำเงินไปเช่าพระจำนวน 28 ล้านบาทด้วย แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดี ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ นายอัจฉริยะ จะพานายบอย มาแถลงข่าวกลับสื่อมวลชนเพื่อเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมด