“พริตตี้สาว” ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกแฟนหนุ่มเจ้าของร้านบิ๊กไบท์ย่านลำลูกกา ทำร้ายร่างกายจนน่วม

“พริตตี้สาว” ร้องเพจสายไหมต้องรอด ถูกแฟนหนุ่มเจ้าของร้านบิ๊กไบท์ย่านลำลูกกา ทำร้ายร่างกายจนน่วม

จากกรณี ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้มีการโพสต์ข้อความและภาพที่ถูกทำร้ายร่างกาย โดยระบุข้อความว่า ” ขอประจานคนแบบนี้หน่อยอดทนมาตลอด3ปี ทำร้ายร่างกายผู้หญิง จับได้ไม่รู้ต่อกี่ครั้งที่เค้ามีคนอื่น ตลอดเวลาทำร้ายร่างกายผู้หญิงทุกคนที่เข้าไปอยู่ในชีวิตเค้า ไม่เคยให้ความรักกะใครได้ ทุบตี ด่าทอสารพัด ใช้ความรุนแรง เราขอจบดีๆเค้าไม่ยอมจบ ข่มขู่ สารพัด จะจ้องตามทำร้ายชีวิตคนอื่นไปหมด เค้าไม่มีสิทธิมาทำร้ายคน ยิ่งเป็นผู้หญิง ตลอดเวลาคอยอยู่เคียงข้างเค้าตลอด เป็นธุระให้ทุกอย่างทำให้เค้าทุกอย่าง เค้าอยากให้เรากลับไปใช้ชีวิตแบบเป็นทาส เสื้อผ้าของใช้เราเค้าก็ขโมยของเราไปหมด ตามราวีไม่เลิก ทั้งๆที่ตอนนี้เค้าก็พาผู้หญิงอีกคนเข้าบ้าน ตอนนี้เราต้องอยู่แบบหวาดระแวง ล่าสุดเมื่อคืนได้เกิดเหตุขึ้นเค้ามาดักรอทำร้ายกายเราที่งานวันเกิดเพื่อน ขุ่มขู่เราว่า “มึงกับกูต้องตายกันไปข้าง” ได้ขโมยแหวนกับข้อมือ Cartier ขอเราไปด้วย ตอนนี้เรากลัวมากจริงๆ เค้าพูดว่าเค้ามีเงินทำอะไรก็ได้ บุคคลนี้ ขายบิ๊กไบค์ อยู่ลำลูกกา คลอง 3 ขับรถแม็คลาเรน 765 สีเขียวม่วง อยากขอร้องผ่านสืบให้ช่วยหยุดพฤติกรรมคนแบบนี้ #บรีสกระทืบหญิง #บรีสไบค์ช็อป #หน้าตัวเมีย

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำการเพจสายไหมต้องรอด สายไหม 38 น.ส.นิธิวริน หรือ น้องหมวย พริตตี้สาววัย 29 ปี Pretty MC Model อิสระ ได้เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ให้ช่วยพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีเสี่ยเจ้าของร้านบิ๊กไบท์ ที่ทำร้ายร่างกาย ซ้ำยังขู่ฆ่า

วันนี้เดินทางเข้ามาขอให้ทางเพจสายไหมต้องรอด ช่วยเหลือเพราะถูกอดีตแฟนคนนี้คอยตามราวีไม่ยอมเลิกลา ซ้ำมีการขโมยสิ่งของเสื้อผ้าและของมีค่าของตนเองไป ซึ่งอดีตแฟนคนนี้คบกันมานานกว่า 3 ปี เขาเป็นคนอารมณ์ร้อนเวลามีปัญหาก็จะตี หรือทำร้ายเราตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องออกไปกินข้าวนอกบ้านหรือออกไปหาเพื่อน ตัดสิทธิ์ความอิสระของตนเองหมดทุกอย่าง บางครั้งเพื่อนโทรมาก็จะเอามือถือไปบล็อกเบอร์เพื่อนไม่ให้เราเจอใคร

แต่ตัวเองกลับไปมีคนอื่น เขาก็พูดได้แต่ว่าให้เราอยู่เฉยๆ ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาปล่อยให้ตัวเองอยู่คนเดียวไม่เคยมาดูแลเหมือนคนเป็นแฟนกัน ตังเองเหมือนใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว แม้กระทั่งช่วงที่ตนเองมีเรื่อง ทะเลาะวิวาท โดยมีผู้หญิงของเค้าเข้ามาทำร้ายตัวเองถึงในร้าน จึงทำให้ตัวเองต้องออกมาเช่าบ้านอยู่ ที่ผ่านมาเคยพยายามเลิกอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ยอมเลิกโดยให้เหตุผลว่ายังรักตัวเองอยู่

เหตุการณ์ที่ตนเองทนไม่ไหวจนต้องโพสเรื่องราวไว้ เป็นวันที่ตัวเองไปงานวันเกิดเพื่อนที่ร้านเหล้า ด้วยที่ตนเองอยากจะใช้ชีวิตอย่างคนปกติจึงได้ลง Stories ไว้ว่าอยู่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง แต่เขาทักมาว่าอยู่ที่นี่หรอเจอกูแน่ ตัวเองจึงรีบย้ายร้านแล้วได้บอกเพื่อนว่าเหมือนกับเขาจะตามมาจึงรีบย้ายไปร้านที่ 3 แต่ไม่รู้ว่าเขาตามไป ซึ่งตอนที่ตัวเองจะขึ้นรถเขาก็มาดักที่รถ พอเจอหน้าเขาก็ตบเราเลย ที่ผ่านมาเขาก็ข่มขู่มาโดยตลอดว่าเราจะทำอะไรก็ทำ เขามีเงินเขาจะทำอะไรก็ได้ถ้าอยากจะสู้กับเขาเขาก็จะสู้

ในวันที่ออกมาตัวเองไม่ได้เอาอะไรออกมา วันที่ออกมาล่าสุดก็บังคับให้ถอดข้อมือ กับแหวนให้เขา ถ้าไม่ถอดก็ไม่ต้องไปแล้วง้างมือจะตบเลยต้องถอดให้เขา และอ้างว่าที่ต้องเอาของไว้เพื่อไม่ให้ตนไปไหน หรือถ้าจะไปต้องไปแต่ตัว พอเราจะรับงานก็ห้ามไม่ให้ไปรับ ได้เงินจากเขามากินมาใช้นิดหน่อย ไม่เคยให้อะไรกับตนเองเลย

หลักเกิดเหตุ ตัวเค้าเองพยายามเข้ามาไกล่เกลี่ยแต่เราบอกไปว่าขอตัวกลางในการไกล่เกลี่ยได้ไหมเพราะกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก เพราะที่ผ่านมาเคยถูกข่มขู่ว่าถ้าเราจะเลิกกับเขาเราจะต้องตายจากกันไปข้างหนึ่งถึงจะเลิกยุ่ง ตัวเองอดทนและเก็บความรู้สึกมาโดยตลอด แต่ครั้งนี้ไม่ไหวจริงๆ

ด้านนายเอกภพ ระบุว่า พฤติกรรมแบบนี้ผู้ชายถ้าได้ทำร้ายผู้หญิงแล้วมันไม่เลิกทำร้ายอย่างแน่นอน มีแต่จะกลับมาทำร้ายที่รุนแรงขึ้น ซึ่งน้องเค้าถูกทำร้ายหลายท้องที่หลังจากนี้ตนเองจะประสานไปยัง ท่านผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรคูคต และผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลโคกคราม เพื่อเข้าแจ้งความ ดำเนินคดีในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง ฝากไปถึงไฮโซหนุ่มด้วยว่าคุณทำอะไรลงไป และรู้แก่ใจว่าทรัพย์สินที่คุณได้มาได้มาอย่างไรคงไม่ต้องให้ผมไปสาวออกมาถึงการได้มาของเงิน ว่าจะได้มาโดยชอบหรือไม่ชอบนั้นหลังจากนี้คงมีเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอยู่แล้ว และถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับน้องเขาเดี๋ยวผมจะขุดขึ้นมาเอง