DSI จับแอดมินเปิดกลุ่มลับขายภาพอนาจารเด็กหนุ่ม
1 min readนายเขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกอง คดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำกำลังเจ้าหน้าที่ และ สุนัขปฏิบัติการจาก องค์การ Operation Underground Railroad (O.U.R.) ในการช่วยค้นหา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในห้อง
โดยการปฏิบัติการในครั้งนี้เข้าตรวจค้น คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านรังสิต เป็นที่พักของผู้ต้องหา เป็น ชาย อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่2 มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่ศึกษาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ / จากพฤติกรรมพบว่า ผู้ต้องหาเป็น แอดมินเจ้าของแพลตฟอร์มออนไลน์ ที่เผยแพร่คลิปและรูปภาพอนาจารของเด็กชาย ตั้งแต่ช่วงวัย ประถมไปจนถึงมัธยมศึกษา อายุ ไม่เกิน 18 ปี โดยผู้ต้องหา จะใช้ผู้หญิงสาวสวยเป็นเหยื่อล่อ ไปหลอกคุยกับเหยื่อผู้ชายจนเชื่อใจหลงรักและยินยอมที่จะเปิดกล้องวิดีโอคอลคุยกันก่อนจะใช้คำพูดรวมถึงผลประโยชน์บางอย่างหลอกให้ถ่ายภาพอนาจาร ภาพโป๊ส่งกลับมาให้กับผู้ต้องหา ซึ่งเหยื่อส่วนใหญ่จะใส่ชุดนักเรียน
จากนั้นผู้ต้องหาจะบันทึกภาพและนำไปปล่อยขายในกรุ๊ปลับ ที่ต้องสมัครสมาชิกเข้าดูมี package มีตั้งแต่ราคา 150 บาทจนถึง 500 บาท /
จากการตรวจค้น พบหลักฐานเป็นคอมพิวเตอร์จำนวนหนึ่งด้านในมีไฟล์รูปอนาจารรูปโป๊กว่า 5,000 ไฟล์ ตรวจสอบยืนยันเหยื่อผู้เสียหายได้แล้วกว่า 200 คนและเข้าสู่การแจ้งความแล้วประมาณ 10 คน
นายเขมชาติ บอกว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียน DSI ก็ได้พิจารณารับเป็นคดีพิเศษ และทำการสืบสวนติดตามผู้ต้องหามานาน 8-9 เดือน และได้รวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับ ผู้ต้องหา ในความผิดฐานครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น, ส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น, และฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามก
จากการ สอบถามผู้ต้องหารับสารภาพ เบื้องต้นว่าทำเพียงคนเดียวและทำมาหลายปีแล้ว และส่วนใหญ่จะเลือกเหยื่อเฉพาะเด็กผู้ชาย อายุไม่เกิน 18 ปี เท่านั้น แต่ยังไม่มีการซักทอดว่า มีใครร่วมขบวนการหรือไม่ / สื่อมวลชนพยายามสอบถามข้อมูลกับผู้ต้องหาแต่ผู้ต้องหาไม่พูดอะไรเลย
และจากการสอบสวนนายเขมชาติ เชื่อว่าจะต้องมีผู้อื่นร่วมขบวนการด้วยไม่ต่ำกว่า 2-3 คนรวมถึงจะไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาว่ามีการส่งต่อไปถึงใครอีกหรือไม่ รวมถึงต้องตรวจสอบว่าขณะก่อเหตุหลอกให้เหยื่อส่งภาพอนาจารขณะวิดีโอคอลนั้นมีการใช้ AI ผู้หญิง หรือมีผู้หญิงร่วมอยู่ภายในห้องด้วยหรือไม่ หรือว่ามีการใช้คลิปวิดีโอของผู้หญิงอื่นมาสวมหลอกอีกทีหนึ่ง ซึ่งทริกของผู้ต้องหาที่จะหลอกเหยื่อตอนวิดีโอคอลนั้น จะอ้างว่าไม่ได้แต่งหน้าบ้างไม่พร้อมที่จะออกกล้องบ้างหรือจะเชิญชวนให้ดูอวัยวะส่วนอื่นของร่างกายแทนใบหน้าเพื่อหลบลีกการเผชิญหน้า ซึ่งก็เป็นเทคนิคของผู้ต้องหา
นอกจาก การนำกำลังเข้าตรวจค้น DSI ยังได้ใช้สุนัข K9 ชื่อ ฮิดู ที่เป็นสุนัขดมกลิ่น ที่ได้รับการฝึกจากสหรัฐอเมริกา เพื่อตรวจหาอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ผู้ต้องหาอาจจะซุกซ่อน อยู่ในหน้าที่ต่างๆมาร่วมปฎิบัติการในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ใช้สุนัขดมกลิ่นและเป็นคดีที่ 13 ของประเทศอีกด้วย