“บิ๊กโจ๊ก”เคลียร์ฟันธงแก้ปัญหาวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน22สิงหานัดเปิดกรุสมบัติของวัด
1 min readปัญหายืดเยื้อของวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร ที่เป็นมหากาพย์ยาวนานเกือบสิบปี ที่เปิดศึกแย่งชิงตำแหน่งเจ้าอาวาสและทรัพย์สิน-วัตถุมงคลของโบราณและเงินจำนวนนับร้อยล้านบาท ที่ถึงขนาดกับมีการฟ้องร้องในศาลถึง 59 คดี และมีชายชุดดำใช้กำลังเข้าทำร้ายเจ้าอาวาสและยึดครองวัดหลวงพ่อเงินบางคลานตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย. 66 ถึงวันนี้ก็ยังวุ่น ล่าสุด “บิ๊กโจ๊ก” บินด่วนเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องรวมถึง สว.กิตติศักดิ์ ที่อ้างว่าเป็นตัวแทนชาวบ้านเปิดห้องคุยถกกว่า 3 ชั่วโมง “บิ๊กโจ๊ก” สรุปฟันธง เมื่อคาใจเรื่องทรัพย์สินก็จะตรวจสอบกันให้เคลียร์ จากนั้นเจ้าอาวาสที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง ต้องเข้าวัดได้ โดยนัด 22 ส.ค. 66 “บิ๊กโจ๊ก”จะขอนำทีมลงมือตรวจสอบทรัพย์สินของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ด้วยตัวเอง
วันที่ 17 สิงหาคม 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ , นายมานะ สิมมา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย , นางเพ็ญรวี มาแสง รองอธิบดีกรมบังคับคดี , นายอินทพร จั่นเอี่ยม รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์มาลงที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร โดยมี นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ ผู้ว่าฯ พิจิตร และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับเพื่อเข้าร่วมประชุมคลี่คลายปัญหาของวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน โดยในที่ห้องประชุมได้มี สว.กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ เป็นตัวแทนฝ่ายชาวบ้านที่คัดค้านไม่เอาเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน และมี พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน , นายพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกรวัดหิรัญญาราม หรือวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน และทีมทนายความเข้าร่วมประชุม ซึ่งในที่ประชุมมีบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 50 คน เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง คุยถกเกียงกัน ซึ่งก็ได้ห้ามสื่อมวลชนบันทึกเสียงบันทึกภาพ
จากนั้นเมื่อการประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้เปิดแถลงข่าว มีใจความสรุปโดยย่อว่าพูดคุยกันรู้เรื่องแล้วว่า พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ที่ได้รับการแต่งตั้งถูกต้องตามกฎของคณะสงฆ์ จะต้องเข้าวัดบางคลานได้เพื่อปฏิบัติกิจต่างๆ ส่วนที่คาใจกันเรื่องทรัพย์สิน-วัตถุมงคล-ของโบราณในพิพิธภัณฑ์ และในกุฏิอดีตเจ้าอาวาส-เงินสด หรือเงินที่อยู่ในบัญชีธนาคาร-งาช้าง-ทรัพย์สินอื่นๆ ที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาทนั้น ในวันที่ 22 ส.ค. 66 “บิ๊กโจ๊ก” กล่าวว่าตนเองและคณะจะเดินทางเข้าวัดหลวงพ่อเงินบางคลานเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินหากอยู่ครบก็ต้องจบเรื่อง หากอยู่ไม่ครบถูกยักยอกหรือสูญหายก็จะต้องหาคนผิดมารับโทษ ผิดหรือถูกต้องเป็นไปตามกฎหมาย คดีใดที่เจรจาพูดคุยกันได้และสามารถ ถอนฟ้องได้ ก็อยากให้ถอยคนละก้าว ส่วนคดีที่เป็นคดีอาญาแล้วถอนฟ้องไม่ได้ก็ต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งคดีความที่เกิดขึ้นภานในวัดแห่งนี้ มี คดีทั้งหมดมี 59 คดี , สั่งฟ้องไปแล้ว 33 คดี , ศาลพิพากษาลงโทษ คดีสิ้นสุดแล้ว 21 คดี , อยู่ในระหว่างการพิจารณาของอัยการ 9 คดี , อัยการสั่งฟ้อง 21 คดี , อัยการสั่งไม่ฟ้อง 15 คดี , ในชั้นพนักงานสอบสวนหลักฐานไม่เพียงพอตำรวจสั่งไม่ฟ้อง 17 คดี , ยกฟ้อง 7 คดี , ยังคงเหลือที่เป็นคดีที่ยังค้างและอยู่ในระหว่างสอบสวน 4 คดีที่มี สว.กิตติศักดิ์ เป็นผู้ถูกกล่าวหา อยู่ในคดีชุดนี้ด้วย และต้องส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการอยู่ในสำนวนทั้ง 4 คดีนี้ด้วย โดยสรุปเรื่องนี้ “บิ๊กโจ๊ก” ยืนยันทุกอย่างต้องจบและคืนความสงบให้กับวัดหลวงพ่อเงินบางคลานให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจของพุทธศาสนิกชนทั้งชาวพิจิตรและชาวไทยทั้วประเทศดังกล่าวอีกด้วย
สิทธิพจน์ พิจิตร รายงาน