พิจิตร วิกฤตภัยแล้งส่อเค้าหนักศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์เร่งผลิตหญ้าแห้งอัดก้อนช่วยเหลือโคกระบือ (มีคลิป)
1 min readเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าสถานการณ์ภัยแล้งปีนี้ พิจิตรเมืองชาละวันส่อเค้าอ่วมแน่ แม่น้ำยมแห้งขอด แม่น้ำน่านปริมาณน้ำมีแค่ก้นตลิ่ง ห้วย หนอง คลอง บึง น้ำเหลือน้อยนิด นอกจากชาวนาจะเดือดร้อนแล้ว วิกฤตครั้งนี้อาจส่งผลถึงกลุ่มผู้เลี้ยงโค กระบือ แพะ แกะ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์พิจิตรเร่งผลิตหญ้าแห้งอัดก้อน พร้อมช่วยเหลือเกษตรกรผู้ทำอาชีพเลี้ยงปศุสัตว์
วันที่ 8 ม.ค. 2562 นางจรุณี ดำช่วย ผอ.ศูนย์ วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์พิจิตร กล่าวถึงแผนการรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้ง ว่า ศูนย์ วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์พิจิตร ซึ่งตั้งอยู่ที่ 63 หมู่ 4 ตำบลวังสำโรงอำเภอตะพานหิน จังหวัดพิจิตร อยู่บนพื้นที่ 405 ไร่ ขณะนี้ได้รับนโยบายจากกรมปศุสัตว์ กระทวงเกษตรและสหกรณ์ ที่มีความห่วงใยพี่น้องเกษตรกรผู้ทำอาชีพเลี้ยงสัตว์ประเภท โค กระบือ แพะ แกะ เกรงว่าฤดูแล้งในปีนี้สัตว์เลี้ยงอาจประสบปัญหาขาดแคลนพืชอาหารที่อยู่ในธรรมชาติ ที่เกิดจากวิกฤตภัยแล้งที่คาดว่า น่าจะแล้งหนักยาวนานไปถึงเดือนพฤษภาคม 2563 ดังนั้นในช่วงนี้ ศูนย์วิจัยและพัฒนาอาหารสัตว์พิจิตร จึงได้ทำการเร่งผลิตหญ้าแห้งอัดก้อนที่มีเป้าหมายการเนินการจำนวน 220 ตัน เพื่อเตรียมพร้อมในการแจกจ่ายให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ในเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร , เพชรบูรณ์ , นครสวรรค์ ,พิษณุโลก , อุทัยธานี โดยขณะนี้ได้ดำเนินการพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรแล้ว อีกทั้งยังมีหญ้าแห้งอัดก้อนอยู่ในสต็อกที่เป็นของเก่าอีก 100 ตัน สรุปโดยรวมจึงมีหญ้าแห้งอัดก้อนรวม 320 ตัน ซึ่งจะสามารถเลี้ยงโคกระบือได้มากถึง 48,000 ตัว ซึ่งหญ้าแห้งอัดก้อน 1 ก้อน สามารถเลี้ยงโค กระบือ ได้ 3 ตัว ต่อ 1 วัน จึงมั่นใจว่าแล้งนี้ โค กระบือ แพะ แกะ จะไม่ขาดแคลนอาหารอย่างแน่นอน
สำหรับข้อมูลของปศุสัตว์จังหวัดพิจิตร พบว่า มี โคเนื้อ 10,556 ตัว โคนม 407 ตัว กระบือ 5,784 ตัว แพะ 3,505 ตัว แกะ 776 ตัว ดังนั้นจึงจัดสรรโควต้าหญ้าแห้งอัดก้อนไว้ให้จำนวน 80 ตัน ซึ่งมั่นใจว่าน่าจะเพียงพอ ส่วนที่เหลือนั้นก็จะแจกจ่ายไปยังจังหวัดข้างเคียงที่มีความประสงค์ หรือ ร้องขอมา อีกทั้งถ้าเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์หรือทำฟาร์มปศุสัตว์ ต้องการขอรับหญ้าแห้งอัดก้อน สามารถขอรับได้ฟรี แต่ต้องนำรถมาบรรทุกมาขนไปเอง ส่วนการนำไปแจกจ่ายในพื้นที่หากมีคำสั่งของทางราชการมา ก็ยินดีดำเนินการ
ดังนั้นหากเกษตรกรท่านใดสนใจ สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 087-2943049 ได้ ในวันและเวลาราชการ
ภาพ/ข่าว สิทธิพจน์ พิจิตร