สาวไทยสุดทน! พาแฟนต่างชาติมาเที่ยวบ้าน ถูกทำร้ายปางตายคดีไม่คืบ

เฟสบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า อีแหล่ โสตาย โดยระบุข้อความว่า ถ้าเกิด กะตัวคุณเองและยิ่งไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนพ่อแม่พี่น้อง ไม่มี พวกคุณยังจะอยากกลับมาอีกนะ?? ทั้งที่มาเมืองไทยเมื่อไหร่ # หอบเงินมากระจายในประเทศไทยไม่รู้กี่ร้านแล้ว เอาความเป็นจริงไม่ใช่สักแต่จะจินตนาการเพียงแค่ให้ตัวคุณเองดูดีในหมู่บ้านเล็กๆแค่นั้น!!!ถามจริงๆ!!! พร้อมกับนำภาพที่แฟนหนุ่มได้รับบาดเจ็บมาโพส จากนั้นก็มาชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง เฟสบุค ดังกล่าว โดยมีคุณอ้อย หรือ น.ส.สิรานี ชูสกุล อายุ 40 ปี บ้านเลขที่38ปี หมู่11บ้านห้วยยางกลาง ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ แฟนชาวต่างชาติ เป็นเจ้าของเฟส เผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าว ได้เกิดขึ้นที่ ร้านค้าแห่งหนึ่งในหมู่บ้านห้วยยางกลาง ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ โดยวันเกิดเหตุเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ 14 เม.ย.66 ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าของร้านค้าได้นำเครื่องเสียงมาเปิด เล่นสงกรานต์ ที่บริเวณหน้าร้าน โดยมีเพื่อนบ้านในชุมชนได้ไปร่วมสนุกกันที่บริเวณหน้าร้านค้าดังกล่าวกันจำนวนมาก แต่พอตกกลางคืน ขณะที่ตนและแฟนหนุ่มได้กินเหล้าและร่วมสนุกเสร็จขณะจะเดินกลับเข้าบ้าน แฟนหนุ่มก็โดน เจ้าของร้าน 2 ผัวเมียไล่ฟันและใช้ไม้ทุบตีพร้อมกับมีวัยรุ่นนับ10คนช่วยรุมทำร้ายแฟนชาวต่างชาติจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนเห็นเหตุการณ์ จึงได้เข้าไปปกป้องแฟนหนุ่มและถูกลูกหลงได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เดิมที่แฟนหนุ่ม ชื่อ นายจเร โอยารา อายุ31ปี ชาวฟินแลนด์ ได้เดินทางมาเที่ยวเมืองไทย และมาเที่ยวอยู่ที่หมู่บ้านนี้ร่วม 8 ปีแล้วโดยเดินทางไปๆมาๆ ซึ่งคนในชุมชนก็พอรู้จักอยู่บ้าง วันเกิดเหตุตนก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นทำไม ถึงต้องมาทำร้ายกันปางตายเช่นนี้ หลังเกิดเหตุ แฟนหนุ่มได้เข้ารักษาตัว ที่รพ.หนองบัวระเหว แพทย์ได้ส่งรักษาต่อที่ รพ.ชัยภูมิ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศ ในวันถัดมา หลังเกิดเหตุแฟนหนุ่มก็ยังไม่กล้าที่จะกลับมาที่เมืองไทยอีกเลยเนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย ส่วนสาเหตุตนเองคาดว่า แฟนหนุ่มคงจะพูดคุยหรือสื่อสารกับทางร้านค้าไม่รู้เรื่องกัน เพราะแฟนหนุ่มเป็นคนพูดเอะอะเสียงดัง จึงอาจเป็นสาเหตุทำให้เข้าใจกันผิดกันจนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นก็เป็นได้ หลังเกิดเรื่องขึ้นตนเองก็ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.วังตะเฆ่ โดยมี พ.ต.ท.กฤษ สุขภิรมย์ สว.สอบสวน สภ.วังตะเฆ่ เป็นเจ้าของคดีนี้ จากวันเกิดเหตุมาจนถึงวันนี้ผ่านไปร่วม 4 เดือน แล้ว ตนเห็นว่าคดียังไม่มีความคืบหน้า ตนจึงได้นำคลิปมาโพสเพื่อเรียกขอความเป็นธรรมให้กับตนและแฟนต่างชาติในครั้งนี้

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง บ้านเลขที่ 47หมู่11บ้านห้วยยางกลาง ต.ห้วยแย้ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ร้านค้าที่เกิดเหตุ พบกับ นายวันชัย บุญชัย อายุ35ปีและ น.ส.คำแคน อาภรแก้ว อายุ 35ปี เจ้าของร้านค้าซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน เผยว่า วันเกิดเหตุ เป็นวันสงกรานต์ ทางร้านได้เปิดเครื่องเสียงเล่นที่หน้าร้านและมีคนอยู่ด้วยกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงผู้บาดเจ็บ ก็ได้นั่งกินอยู่ที่นี้ด้วย โดยระหว่างกิน ผู้บาดเจ็บก็ได้เซ็นเบียร์ที่ร้านกินอยู่กับเพื่อนบ้านจากนั้น ผู้บาดเจ็บมีอาการเมา จึงได้ให้ปิดเครื่องเสียง เกรงจะมีเรื่อง แต่ นายจเร ชาวแฟนแลนด์ซึ่งมีอาการเมาพูดจาเอะอะโวยวายตนจึงบอกให้ทางแฟนคนเจ็บพาแฟนต่างชาติกลับบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากร้านไปประมาณ 500 เมตร แต่เมื่อไปถึงบ้าน ตนเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเสียงโวยวายและมีเพื่อนบ้านไปดูกันหลายคน จากนั้นก็มีเจ้าหน้าตำรวจมาตรวจสอบจนเรื่องเงียบลง

ต่อมาใช่วงเย็นทางร้านได้นั่งกินและเปิดเพลงอีกครั้ง นายจเร ชาวแฟนแลนด์ ก็ได้ เดินกลับมาที่ร้านอีกพร้อมกลับมาบอกว่า ซื้อเหล้าขาว 1ขวดเล็ก ทางร้าน บอกไป70 บาท แต่ทางนายจเร ต่อว่าจะจ่าย60บาทเพราะเคยซื้อตามร้านส่งราคานี้ทางร้านบอกไปว่าไม่ได้ร้านขายราคา70 มาโดยตลอด จึงทำให้นายจเร ชาวต่างชาติไม่พอใจ โยนถุงเหล้าขาวใส่ทางภรรยา เจ้าของร้านพร้อมด่าทอ ด้วยคำว่า บัฟโล่ ฟักยู ทางสามี เห็นท่าไม่ดี จึงได้ คว้ามีด ปอกมะพร้าวที่วางอยู่ข้างร้านมาไล่ฟัน ยอมรับว่าใช้ด้านสันมีด ตีเข้าไปที่ปลายคางหนุ่มต่างชาติจริงจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นเห็นก็เกิดการชุลมุลขึ้น จากนี้ไปก็ว่ากันไปตามกฎหมายต่อไป

ด้านนางวรรณภา กำเนิดศรี อายุ46ปีชาวบ้านห้วยยางกลาง เผยว่า นายจเร ชาวต่างชาติคนนี้ เมื่อเมาแล้วมักจะชอบหาเรื่อง ไม่ชอบให้ความร่วมมือในชุมชน เป็นคนโวยวายตลอด แต่ถ้าไม่เมา ก็จะอยู่นิ่งๆ

ทางด้านความคืบหน้าของตำรวจ พ.ต.ท.กฤษ สุขภิรมย์ สว.สอบสวน สภ.วังตะเฆ่ เผยว่าทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญในเรื่องของคดีนี้เป็นอย่างมากเนื่องจากผู้บาดเจ็บเป็นชาวต่างชาติได้มีการติดต่อและประสานงานกับทางสถานทูตอย่างต่อเนื่องโดยอยู่ระหว่างสรุปสำนวนส่งอัยการเบื้องต้นได้สอบพยานมาทั้งหมด 6 ปากและได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คนซึ่งในนั้นมี 2 สามีภรรยาเจ้าของร้านร่วมด้วยรวมถึงวัยรุ่นที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้โดยตั้งข้อหา 1 ร่วมกันทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายสาหัส 2 ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

ภาพ/ข่าว คำหอม ชุมชน 02 ผู้สื่อข่าว จ.ชัยภูมิ