สืบนครบาลรวบ “ลูกจ้างหื่น” ใช้มีดจี้กระทำชำเราลูกนายจ้าง อ้างทำไปเพราะความมึนเมาและหลงรัก
1 min read ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ปราบปรามจับกุมอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบ ตลอดจนอาชญากรที่สร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล (IDMB) ได้รับทราบถึงความเดือดร้อนของผู้เสียหาย ซึ่งถูกคนร้ายใช้มีดพกบังคับจี้คอผู้เสียหาย เพื่อพาไปยังชั้นดาดฟ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และบังคับข่มขืนใจผู้เสียหาย หากไม่ยินยอมให้กระทำชำเรา จะใช้อาวุธมีดที่จี้คออยู่ ปาดคอให้เสียชีวิต ทำให้ผู้เสียหายนั้นเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกทำอันตรายแก่กายถึงชีวิต จึงถูกผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ และได้หลบหนีไป สร้างความบอกช้ำเป็นอย่างมาก พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อทราบถึงข้อมูลพฤติการณ์การก่อเหตุที่ชุดสืบสวนนำเสนอได้กำชับให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว
เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 19.30 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.ฯ, พ.ต.อ.สมบูรณ์ สุขศรีดาวเดือน ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น., พ.ต.ท.ปกรณ์ ทองช่วง และ พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3ฯได้สั่งการให้ พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. (ชุดปฏิบัติการที่ 3/4) ร่วมกับ นักศึกษาฝึกสืบสวน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ร่วมกันจับกุมตัว
นายอภิรักษ์ อายุ 46 ปี จ.ระนอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 608/2566 ลงวันที่ 7 สิงหาคม 2566
ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ได้กระทำโดยใช้อาวุธ"
โดยจับกุมได้ที่บริเวณบ้านหลังหนึ่ง หมู่บ้าน ช.รุ่งเรือง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
พฤติการณ์ กล่าวคือ นายอภิรักษ์ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหา เป็นลูกจ้างของแม่ผู้เสียหาย โดยเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2566 เวลาประมาณ 22.30 น. ขณะที่ นายอภิรักษ์ ผู้ต้องหา ได้ดื่มสุราและอยู่ในอาการมึนเมาที่บ้านของผู้เสียหาย ได้เห็นผู้เสียหายเดินผ่านขณะนายอภิรักษ์ ผู้ต้องหากำลังดื่มสุราอยู่ นายอภิรักษ์ ผู้ต้องหา ซึ่งแอบหลงรักผู้เสียหายอยู่เดิมอยู่แล้ว เห็นผู้เสียหายแล้วจึงเกิดอารมณ์ จึงได้หยิบมีดพกที่วางไว้บริเวณใกล้มือ บังคับจี้คอผู้เสียหาย เพื่อพาไปยังชั้นดาดฟ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และบังคับข่มขืนใจผู้เสียหาย เพื่อกระทำชำเรา โดยบอกว่า หากไม่ยินยอมให้กระทำชำเรา จะใช้อาวุธมีดที่จี้คออยู่ ปาดคอให้เสียชีวิต ทำให้ผู้เสียหายนั้นเกิดความหวาดกลัวว่าจะถูกทำอันตรายแก่กายถึงชีวิต จึงถูกผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ จากนั้น ผู้ต้องหาได้หลบหนีหายไป
จากการสอบถาม นายอภิรักษ์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่า ตนนั้นเป็นลูกจ้างของแม่ผู้เสียหาย โดยตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้นั่งดื่มสุราอยู่ที่บ้านของผู้เสียหายและมีอาการมึนเมา ได้เห็นผู้เสียหายเดินผ่านขณะผู้ต้องหากำลังดื่มสุราอยู่ ผู้ต้องหาซึ่งแอบหลงรักผู้เสียหายอยู่เดิมอยู่แล้ว เห็นผู้เสียหายแล้วจึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงได้หยิบมีดพกที่วางไว้บริเวณใกล้มือ บังคับจี้คอผู้เสียหาย เพื่อพาไปยังชั้นดาดฟ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และบังคับข่มขืนใจผู้เสียหาย เพื่อกระทำชำเรา โดยบอกกับว่า หากไม่ยินยอมให้กระทำชำเรา จะใช้อาวุธมีดที่จี้คออยู่ปาดคอให้เสียชีวิต ทำให้ผู้เสียนั้นเกิดความกลัวว่าจะถูกทำอันตรายแก่กาย จึงถูกผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ จากนั้น ผู้ต้องหาได้หลบหนีหายไป โดยผู้ต้องหารับสารภาพกับเจ้าหน้าที่อีกว่า ที่ทำไปเพราะเกิดจากความรักที่ตนมีให้กับผู้เสียหาย ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายผู้เสียหายแต่อย่างใด และเกิดจากความเมาสุรา จากนั้นได้ตัวผู้ต้องหาส่ง สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับรายละเอียดประวัติคนร้าย นั้น
- เมื่อ ปี 2550 ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีข้อหา “บุกรุก” พื้นที่ สน.ทุ่งครุ
Loading…