รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยัน “ทักษิณ” ยังอยู่ รพ.ตำรวจ หากยังป่วยหนัก กรมราชทัณฑ์และแพทย์เป็นผู้พิจารณาย้าย รพ. ญาติไม่มีสิทธิ์เลือก
1 min readรองปลัดกระทรวงยุติธรรม ยัน “ทักษิณ” ยังอยู่ รพ.ตำรวจ หากยังป่วยหนัก กรมราชทัณฑ์และแพทย์เป็นผู้พิจารณาย้าย รพ. ญาติไม่มีสิทธิ์เลือก รพ. เตรียมอนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ 10 คน หลังพ้นกระบวนการรักษา ตามกรอบกรมราชทัณฑ์
นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้ต้องขังในคดีทุจริตปล่อยกู้เอ็กซิมแบงก์ คดีหวยบนดิน และคดีแก้สัมปทานเอื้อประโยชน์ให้ชินคอร์ป จะถูกย้ายจากโรงพยาบาลตำรวจไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชน โดยระบุว่า วันนี้ยังไม่ได้รับรายงานอาการล่าสุดของนายทักษิณ แต่คาดว่าทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และตนเองมั่นใจว่าแพทย์โรงพยาบาลตำรวจสามารถดูแลและรักษาอาการของนายทักษิณได้ อย่างไรก็ตาม ตนเองมองว่าการดูแลชีวิตผู้ต้องขังเป็นเรื่องจำเป็น หากโรงพยาบาลตำรวจไม่สามารถดูแลและยื้อชีวิตผู้ต้องขังไว้ได้ ก็จำเป็นต้องส่งต่อไปยังโรงพยาบาลอื่น โดยพิจารณาตามข้อมูลทางการแพทย์ ไม่สามารถใช้ความรู้สึกได้ แต่ตอนนี้ยืนยันยังไม่ต้องย้ายไปโรงพยาบาลเอกชน หรือโรงพยาบาลอื่นตามที่มีกระแสข่าว และหากจำเป็นต้องย้ายโรงพยาบาล ก็เป็นดุลยพินิจของแพทย์และกรมราชทัณฑ์ ในการพิจารณาว่าจำเป็นต้องย้ายไปยังโรงพยาบาลใด ญาติไม่มีสิทธิ์เลือกโรงพยาบาล
ส่วนการรักษานั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ แต่ในด้านการรักษาความปลอดภัย ก็มีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเฝ้าอย่างน้อย 4 คน การติดต่อสื่อสารต่างๆ ต้องผ่านทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมด เพราะนายทักษิณยังอยู่ในการดูแลของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และจะมีตำรวจเข้าไปช่วยดูแลอีกทางหนึ่ง เพราะปัจจุบันสังคมแบ่งเป็นหลายขั้ว หากไม่ดูแลอาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา แล้วจะกลายเป็นเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลย
ส่วนการเข้าเยี่ยมนายทักษิณ เป็นไปตามที่ราชทัณฑ์กำหนด คือ ช่วง 10 วันแรก ห้ามเยี่ยมตามเงื่อนไขกรมราชทัณฑ์ ประกอบกับเป็นช่วงกระบวนการรักษา แต่หากพ้น 10 วันไปแล้ว อนุญาตให้ญาติที่สืบสายโลหิตไม่เกิน 10 คนเข้าเยี่ยมได้ โดยต้องไปแจ้งความจำนงต่อเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเวลาการเข้าเยี่ยมเป็นไปตามกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์ แต่หากไม่ใช่ญาติ เป็นบุคคลสำคัญอื่นมาขอเยี่ยม ก็ต้องสอบถามเจ้าตัวว่าประสงค์ให้เข้าเยี่ยมหรือไม่
พร้อมยืนยันว่านายทักษิณรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจจริง แต่กรมราชทัณฑ์ไม่สามารถนำภาพนักโทษมาเผยแพร่ได้ เพราะมีองค์กรและกฎหมายคุ้มครองสิทธิคุ้มครอง
ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอาการของนายทักษิณหนักเพียงใด ถึงต้องมีการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลตำรวจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุเกิดจากความเครียดที่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ถูกจำกัดสิทธิ์ต่างๆ ไม่ได้พบปะผู้คน จากที่ปกตินายทักษิณเป็นคนกินอยู่สุขสบาย เมื่อเกิดความเครียดก็จะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ซึ่งเดิม มีโรคหัวใจขาดเลือด พังผืดที่ปอด ความดันสูง และกระดูกสันหลังเสื่อมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้อาการหนักขึ้น
ทั้งนี้ตนเองเข้าใจว่ามีประเด็นคำถามมากมาย แต่กระทรวงยุติธรรมจะพิสูจน์ให้เห็นว่า กรมราชทัณฑ์ได้ปฏิบัติตามระเบียบกติกาและกฎหมายหรือไม่ เชื่อว่าหากทุกอย่างเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ ไม่เอื้อปฏิบัติกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง สังคมก็น่าจะยอมรับได้