ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ลุยตรวจค้นบริษัทท่องเที่ยว อ้างลงทุนกองทุนต่างประเทศ เงินดิจิทัล อึ้ง! ไม่พบใบได้รับอนุญาต
1 min read
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.อภิชน เจริญผล, พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ., ว่าที่ พ.ต.อ.ธีรภาส ยั่งยืน ผกก.3 บก.ปอศ., พ.ต.ท.นนทพัทธ์ ยอดแก้ว,พ.ต.ท.ภาสกร นภาโชติ, พ.ต.ท.ณธัชพงศ์ สินสิริยานนท์, พ.ต.ท.ชวลิต น้ำใจสัตย์ รอง ผกก.3 บก.ปอศ.เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นนำโดย พ.ต.ต.หญิง ปวีณวรรณ สินธุชัย สว.กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.อ.หญิง ศณิศา นนธ์พละ, ร.ต.อ.สุรพันธุ์ ตาขันทะ, ร.ต.อ.ศศิวิมล คำนาค รอง สว.กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.ท.ขวัญใจ ยิ่งเจริญ รอง สว.ฝอ.ฯ ปฏิบัติราชการ กก.3 บก.ปอศ., ร.ต.ท.ชัยวิทย์ ศรจิตต์ พร้อมข้าราชการตำรวจ กก.3 บก.ปอศ.นำกำลังเข้าตรวจค้น สำนักงานบริษัท แห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการชักชวนบุคคลเข้าร่วมลงทุนในรูปแบบกองทุนใช้ชื่อกองทุนว่า “Yulik Thai Travel” อ้างว่านำเงินทุนของบุคคล ไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศและสกุลเงินดิจิทัล และตกลงจ่ายเงินปันผลตอบแทนให้แก่สมาชิกเป็นรายเดือน จากการตรวจสอบพบว่ากองทุนข้างต้น บริหารจัดการโดย บริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายเป็นการรับบริหารจัดการเงินทุนของบุคคล เพื่อแสวงหาประโยชน์จากประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. จึงได้นำหมายค้นศาลอาญา ที่ ค.1018/2566 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2566 เข้าตรวจค้นสำนักงานบริษัทดังกล่าว ในพื้นที่เขตห้วยขวางดังกล่าว โดยจากการตรวจค้นพบเพียงพนักงานบริษัทจำนวน 2 คน อีกทั้งจากการตรวจสอบพบว่ากรรมการบริษัทเป็นชาวต่างชาติ โดยมีชาวต่างชาติถือหุ้นในบริษัท จำนวน 49% และชาวไทยถือหุ้นในบริษัท จำนวน 51% ซึ่งมักจะเป็นพฤติการณ์ใช้ชาวไทยเป็นผู้ถือหุ้นอำพรางแทนผู้ถือหุ้นที่แท้จริง
เบื้องต้นไม่พบเอกสารเกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุน ไม่พบใบอนุญาตการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ ไม่พบเอกสารสำคัญของบริษัท อาทิ สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ใบหุ้น รายงานการประชุมของบริษัท และไม่พบการจัดทำบัญชีของบริษัท อันอาจเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535, พ.ร.บ.กำหนดความรับผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ พ.ศ.2499 และ พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 โดยได้รวบรวมพยานหลักฐานในสถานที่ข้างต้น ส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการต่อไป