โดนจนได้! สืบนครบาล ร่วมสืบ รุ่น 112 จับกุม บช.ม้า หลอกขายของออนไลน์ อ้างขายบัญชีแต่ไม่ได้เป็นม้า
1 min read ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. /ผอ.ศอ.ปส.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบที่สร้างความเดือนร้อนแก่ประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบนครบาลร่วมกับ สืบสวนรุ่น112 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผู้เสียหาย ตลอดจนได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาในช่วงการระดมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
เมื่อวันที่ 2 ก.ย.66 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น , พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย , พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ทองแพ ผกก.(สอบสวน)ฯ พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท ณัฐวุฒิ สีเสมอ , พ.ต.ท.นิติกรณ์ ระวัง รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น สั่งการให้ พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว , พ.ต.ท.วุฒิพันธ์ ผอบทอง , พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ , พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อม นักเรียนสืบสวนคดีอาญา รุ่น 112 ร่วมกันจับกุมตัว
นายณัฐพงษ์ อายุ 32 ปี ต.สะแกโพรง อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ : ศาลจังหวัดประจวบครีขันธ์ ที่ จ.23/2566 ลงวันที่ 27 มกราคม 2566
ข้อหา “ฉ้อโกงและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคนใดบุคคลหนึ่ง”
สถานที่จับกุมที่พักคนงานก่อสร้าง ไม่มีเลขที่ ซอยประชาทร แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร
พฤติการณ์ทางคดี ผู้เสียหายได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแจ้งความร้องทุกข์ว่า ตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ได้ถูกมิจฉาชีพหลอกขายของผ่านเพจ โทรศัพท์ รถหลุดจำนำ โดยให้ผู้เสียหายโอนเงิน ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง จนได้รับความเสียหาย จำนวน 15,000 บาท พนักงานสอบสวน ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลกับทางธนาคาร พบว่าได้โอนเข้าบัญชีชื่อ นายณัฐพงษ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับนี้ ซึ่งมีข้อมูลสอดคล้องตามที่ผู้เสียหายได้ให้การไว้ จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ยื่นคำร้องขอหมายจับต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จากการซักถามนายณัฐพงษ์ สุขรักษา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าเคยเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย โดยผูกไว้กับพร้อมเพย์กับหมายเลขโทรศัพท์ ส่วนธนาคาร UOB และ ธนาคารกรุงเทพ จำสาขาและหมายเลขบัญชีไม่ได้ และได้รับจ้างเปิดบัญชี นำไปให้คนอื่นใช้ โดยได้รับค่าจ้าง จำไม่ได้ว่าเท่าไร แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิดเป็นม้าตามที่กล่าวหา
ประวัติการต้องโทษผู้ต้องหาให้การว่าเคย ต้องโทษจำคุก 1.คดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2.เมาแล้วขับ จึงทำบันทึกการจับกุม และ นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชน ว่า ในสังคมปัจจุบัน มิจฉาชีพหลายรูปแบบ ขอให้ทุกท่านได้โปรดใช้สติ วิจารณญาณในการดำเนินชีวิตในสังคม อย่างหลงเชื่อกลโกงต่างๆ ของมิจฉาชีพซึ่งมีอยู่มากมาย ควรมีสติวิเคราะห์ถึงพฤติกรรม กลโกง หากไม่แน่ใจ หรือสงสัยว่าบุคคลที่เข้ามาเสนอผลประโยชน์ นั้นจะเป็นมิจฉาชีพ หรือไม่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ หรือแจ้งเบาะแสการกระทำความผิด มายังเพจ “สืบนครบาล IDMB” ได้ตลอด 24 ชม. แม้จะเป็นคดีที่มีความเสียหายไม่มาก แต่หากเป็นคดีที่ประชาชนเดือดร้อน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กับ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.