ตำรวจทางหลวงล่าระทึก!สกัดจับหนุ่มฟอร์จูนเนอร์รับจ้างขนแรงงานต่างด้าว

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท. ผบก.ทล. สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก 1.บก.ทล. ทำการจับกุมนายสมชัย แซ่จ๊ะ อายุ 25 ปี พร้อม แรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า 21 คน โดยจับกุมทั้งหมดได้ที่ ริมถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงหัวค่ำของคืนวานที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากขณะเจ้าหน้าที่ กก 1.บก.ทล. ออกปฏิบัติหน้าที่สำรวจความเรียบร้อยไปตามถนนพหลโยธิน ขาเข้ากรุงเทพมหานคร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีน้ำตาล ติดแผ่นป้ายทะเบียนหมายเลข กท 5481 สุโขทัย ขับผ่านมาด้วยท่าทีผิดปกติคล้ายบรรทุกของหนัก จึงส่งสัญญาณเรียกให้หยุดเพื่อจะตรวจสอบ แต่รถคันดังกล่าวกลับพยายเร่งเครื่องหนี จึงไล่ติดตามไป ก่อนจะสามารถตามสกัดได้ดังกล่าว ตรวจสอบพบนายสมชัย เป็นผู้ขับขี่ ภายในรถพบแรงงานต่างด้าวจำนวน 21 คน จึงควบคุมตัวมาดำเนินคดี

สอบสวนนายสมชัย ยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทยชื่อลี (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงานต่างด้าวที่ป่าข้างทาง อ.แม่ท้อ จ.ตาก จำนวน 21 คน เพื่อไปส่งที่ จ.สมุทรปราการ โดยได้รับค่าจ้าง 15,000 บาท โดยระหว่างทางจะมีชายไทยชื่อ นายก้องภพ ชาว อ.วังเจ้า จ.ตาก ขับรถยนต์กระบะอีซูซุ สีขาว เป็นคนขับนำเส้นทางเพื่อดูด่านตรวจหรือรถตำรวจตั้งแต่จังหวัดตาก จนมาถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเจอจึงขับรถพยายามหลบหนีด้วยความกลัว แต่มาถูกจับกุมได้ในที่สุด ทำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ส่วนรถยนต์ที่ใช้ยืมแม่มาโดยอ้างว่าจะไปเที่ยวแต่กลับเอามาใช้ขนแรงงานต่างด้าว เพราะเห็นเพื่อนทำแล้วได้เงิน แต่สุดท้ายไม่รอดมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจับได้

นอกจากนี้จากการสอบถามแรงงานต่างด้าวผ่านล่ามให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถเพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยยังไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย เมื่อถึงปลายทางจะมีญาติเป็นคนจ่ายเงินให้นายหน้าที่นำพาเข้าประเทศไทย

เบื้องต้นจึงแจ้งข้อกล่าวหา นายสมชัย “ให้ที่พักพิงหรือช่วยเหลือแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ,ขับรถประมาท ,ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน,ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงาน ส่วนแรงงาน 21 คน ถูกดำเนินคดีในความผิดฐาน “ เป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป