แม่ค้าออนไลน์กระอักสั่งสินค้ามาขายเจอต้นทางเลี่ยงภาษีปรับ 16 ล้าน
1 min readบุรีรัมย์-แม่ค้าออนไลน์ชาว อ.บ้านด่าน บุรีรัมย์ ถึงกับสะอึก หลังตำรวจทรัพย์สินทางปัญญา นำหมายศาลตรวจค้นพบสินค้าเสื้อผ้าเด็กมีแหล่งผลิตต่างประเทศ(จีน)ลักษณะเลี่ยงภาษีนำเข้า มูลค่าที่จับได้ 4.1 ล้าน ตามกฎหมายต้องปรับ 4 เท่า หรือกว่า 16 ล้านบาท เจ้าตัวสะอึกซื้อจากกรุงเทพฯแล้วเอามาขายออนไลน์
วันที่ 6 ก.ย.66 ร.ต.อ.วัชรากร ชำนาญ รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ชัยภูมิ ปฏิบัติราชการที่ ศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาตำรวจภูธรภาค 3 (ศปลป.ภ.3) และ พ.ต.ต สามารถ อร่าม สารวัตร(สืบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ พร้อมตำรวจชุดสืบสวน
นำหมายค้นของศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 95/2566 เพื่อตรวจค้นบริษัท ทีอาร์เจบี อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 40 ม.7 บ้านโยนช้า ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ หลังสืบทราบนำสินค้าจากต่างประเทศมาจำหน่ายทางออนไลน์แบบหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า
จากการตรวจค้นพบของกลาง จำนวน 5 รายการ ประกอบด้วย ชุดเสื้อผ้าเด็ก ที่มีแหล่งผลิตจากต่างประเทศ(ประเทศจีน) และนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จำนวน 38,000 ชุด มูลค่า 4,180,000 บาท ,คอมพิวเตอร์ แบบตั้งโต๊ะ ยี่ห้อ HP สีขาว จำนวน 1 เครื่อง ,เครื่องปริ้น ยี่ห้อ EPSON สีดำ จำนวน 1 เครื่อง ,แป้นพิมพ์ สีขาว จำนวน 1 ชิ้น และเมาส์สีดำ จานวน 1 ชิ้น
พร้อมกับจับกุม น.ส.เปรมวิณี อายุ 24 ปี และ น.ส.อารียา ซึ่งเป็นแอดมินและรับออเดอร์สินค้า แพ็คส่งให้กับลูกค้า
ส่วนบริษัท ทีอาร์เจบี อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) จำกัด มีผู้จดทะเบียนคือนางธนาภา แลมเบอร ตั้น อายุ 38 ปี และน.ส.สุรัสวดี ยางนอก อายุ28ปี โดยทั้ง 2คน อยู่ต่างประเทศ
สอบถาม น.ส.อารียา อายุ 22 ปี เล่าว่าบริษัทดังกล่าวเปิดกิจการมาได้ประมาณ 3 ปี จัดจำหน่ายทาง shopee ตนเองเป็นแค่เพียงลูกจ้าง มีหน้าที่รับออเดอร์สินค้าและแพ็คสินค้าจัดส่งเท่านั้น ได้รับเงินเดือนๆล่ะ 10,000 บาท ซึ่งจะจำหน่ายชุดล่ะ 110 บาท รวมค่าจัดส่ง ส่วนสินค้าจะเสียภาษีทางศุลกากร หรือไม่ตนเองไม่ทราบ
ทั้งนี้จากข้อมูลตำรวจชุดจับกุมเปิดเผยว่า บริษัทดังกล่าว มีเงินหมุนเวียนในบัญชี เดือนล่ะ 4-5 ล้านบาทต่อเดือน
เบื้องต้นตำรวจชุดจับได้นำผู้ต้องหาทั้ง2 คน นำส่ง พ.ต.ท วิเชียร พรหนองแสน สารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านด่าน ในฐานความผิด “ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับ จำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดย หลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามหรือข้อจำกัด มีความผิดต้องระวางโทษปรับ เป็นเงิน 4 เท่า ราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือจาคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ”ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 ทั้งนี้ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ให้การปฏิเสธ
สำหรับของกลางคือเสื้อผ้าเด็ก จำนวน 38,000 ชุด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำไปให้ด่านศุลกากรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อประเมินอัตราภาษีที่ไม่ผ่านพิธีทางศุลกากร เพื่อนำมาประกอบคดีเปรียบเทียบปรับต่อไป
สวนโทษทางด้านคดี “ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับ จำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรโดย หลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามหรือข้อจำกัด มีความผิดต้องระวางโทษปรับ เป็นเงิน 4 เท่า ราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ”ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 กรณีนี้ตำรวจได้มีประเมินมูลค่าของกลางที่ยึดได้คิดเป็นเงินประมาณ 4.1 ล้านบาท หากถูกปรับ 4 เท่าตามกฎหมาย ผู้ต้องหาจะถูกปรับประมาณ 16,720,000 บาท
ภาพ/ข่าว วาทิตย์ แสนธุปี