“บิ๊กโจ๊ก” เผย ผู้กำกับพญาไท ขู่นักข่าว คาดเกิดจากความเครียด จ่อออกหมายจับเพิ่ม คดียิงสารวัตรทางหลวง
1 min readกรุงเทพมหานคร-รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติรอข้อมูลกล้องวงจรปิดออกหมายจับคดียิงสารวัตรทางหลวงเพิ่ม ส่วนกรณีผู้กำกับพญาไทขู่นักข่าวคาดเกิดจากความเครียด
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ความคืบหน้าในคดีที่คนร้ายก่อเหตุยิงพันตำรวจตรีศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกํากับการ 2 กองบังคับการตํารวจทางหลวง ที่ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตในบ้านพักกำนันนก พื้นที่จังหวัดนครปฐม ว่า การสืบสวนมีความคืบหน้าไปมาก โดยมีความชัดเจนว่ามีผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงทั้งหมด 28 คน พลเรือนอีก 27 คนดำเนินคดีกับตำรวจไปแล้ว 6 นาย และพนักงานราชการของกรมราชทัณฑ์ 1 นาย รวมทั้งพลเรือนที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอีก 4 คน ขณะนี้ยังต้องรอข้อมูลที่กู้ได้จากกล้องวงจรปิดมาประกอบกับข้อมูลจากการสืบสวนเพื่อออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไปโดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในวันศุกร์หรือเสาร์นี้ ซึ่งจะมีทั้งตำรวจและพลเรือน และจะมีการขยายผลไปยังประเด็นอื่นๆที่เชื่อมโยงเช่น เครือข่ายธุรกิจกำนันนก การฮั้วประมูล และการทำพนันออนไลน์ ซึ่งหากตรวจสอบพบการกระทำผิดมูลฐานที่เข้าขายฟอกเงินก็จะร่วมกับ ป.ป.ง.ดำเนินการยึดทรัพย์ต่อไป ขณะนี้มีข้อมูลเส้นทางการเงินที่เชื่อมโยงกับกำนันนกแล้ว ซึ่งมีทั้งพลเรือนและข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้อง
ส่วนกรณีการเสียชีวิตของพันตำรวจเอกวชิรส ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ที่ยิงตัวเองเสียชีวิตในบ้านพักย่านคูคตจังหวัดปทุมธานีวานนี้ เบื้องต้นเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ขณะนี้รอผลการพิสูจน์จากพิสูจน์หลักฐานและนิติเวชว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือเป็นการทำให้ตายจึงจะมีความชัดเจน ส่วนประเด็นที่ปรากฏสัญญาณโทรศัพท์มือถือของในพื้นที่บางนา หลังจากที่พันตำรวจเอกวชิราเสียชีวิตไปแล้วนั้นก็มองว่าเป็นเรื่องทีมีพิรุธเช่นกัน จะต้องเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาที่เก็บโทรศัพท์มือถือไว้มาสอบปากคำ รวมทั้งประเด็นการทำงานเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติด้วย อีกทั้งได้เรียกคนขับแท็กซี่ที่ขับไปส่งพันตำรวจเอกวชิรญาที่บ้านมาสอบปากคำแล้วเมื่อคืน ไม่พบความผิดปกติใด ๆ เป็นการเดินทางลำพัง และพันตำรวจเอกวชิรญาก็บอกทางตามปกติ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลพญาไทข่มขู่ผู้สื่อข่าวนั้น เรื่องดังกล่าวคาดว่าเกิดจากความเครียดของตำรวจ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นการกระทำผิดวินัยหรือไม่ แต่หากผู้สื่อข่าวต้องการแจ้งความดำเนินคดีก็สามารถแจ้งกับตนได้ ส่วนการที่ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้จัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับนักข่าวนั้น มองว่าไม่เป็นเรื่องน่ากังวล เป็นการดำเนินการเพื่อความเรียบร้อยและปลอดภัยในพื้นที่
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวอีกว่า จากการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้อง วันนี้ผู้บังคับบัญชายังไม่ให้ความจริง แม้จะมีลูกน้องถูกยิงเสียชีวิต 1 รายบาดเจ็บ 1 รายและมีตำรวจยิงตัวตายไปอีก1 ราย ทั้งยังไปปกป้องช่วยเหลือคนร้ายอีก ก็นับว่าแย่เต็มที วันนี้ตำรวจต้องรักตำรวจ คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต้องให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ถึงไม่ให้ก็ไม่เป็นไร พนักงานสอบสวนสามารถดำเนินการได้ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าตำรวจบางนายร้องไห้นั้น ก็ไม่ใช่การร้องไห้ระหว่างถูกสอบสวน เพียงแต่ร้องไห้เมื่อมีญาติมาเข้าเยี่ยมเท่านั้น
ส่วนตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องรายอื่นๆจะมีความเครียดหรือไม่ก็ต้องให้ผู้บังคับบัญชาไปคอยดูแล มีนักจิตวิทยาโรงพยาบาลตำรวจดูแลให้อยู่แล้ว เรื่องทั้งหมดเกิดจากตำรวจไปเป็นไม้คำยันให้กับบุคคลเหล่านี้
นอกจากนี้ เมื่อวานนี้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้พูดคุยกับนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่พร้อมจะให้การสนับสนุนข้อมูลรายชื่อผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย