“กัน จอมพลัง” บุกเข้าช่วยเหลือน้องการ์ตูน อายุ 4 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกาย
1 min readวันที่ 19 กันยายน “กัน จอมพลัง” เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงการ์ตูน (นามสมมุติ) อายุ 4 ขวบ ถูกทำร้ายร่างกาย ภายในซอยพหลโยธิน 48 แยก 22-11 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กัน จอมพลัง และ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้าช่วยเหลือ ด.ญ.การ์ตูน ที่คาดว่าถูกพ่อเลี้ยงที่ติดยาเสพติดและติดพนันออนไลน์ ทำร้ายร่างกาย แต่แม่แท้ๆกลับนิ่งเฉย ไม่ยอมพาไปรักษา ซ้ำยังพาน้องการ์ตูนหนีไปบ้านของญาติที่ย่าน อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยทาง กัน จอมพลัง เคยไปช่วยกลับมา พร้อมเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน ไว้แล้ว โดยขณะนี้คดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนกว่า 7 เดือน และยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ด้าน กัน จอมพลัง ระบุว่า มีพลเมืองดีส่งข่าวเก่ามาให้ตน พร้อมระบุว่า ด.ญ.การ์ตูนที่เคยช่วยเมื่อครั้งก่อน ปัจจุบันอายุ 4 ขวบแล้ว และกลับมาอยู่ที่บ้านพักซอยพหลโยธิน 48 กับแม่แท้ๆ และพ่อเลี้ยงเช่นเดิม โดยทางพลเมืองดีได้มีการถ่ายภาพร่องรอยตามตัวของเด็กหญิงส่งมาให้ และเมื่อสอบถามก็ได้คำตอบว่า เด็กบาดเจ็บจากการโดนหม้อหุงข้าว แต่ตนไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากแต่เดิม ด.ญ.การ์ตูน เคยถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว วันนี้จึงเดินทางเข้าช่วยเหลืออีกครั้ง พร้อม พ.ต.ท.ประทีป คำมี สวป.สน.บางเขน และ เจ้าหน้าที่กระพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ต่อมา กัน จอมพลัง ได้เดินทางไปที่หอเช่าแห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 48 แยก 22-11 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก่อนจะไปเคาะประตูห้องพัก กระทั่ง นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี พ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆของ ด.ญ.การ์ตูนจะเปิดประตูออกมา ก่อนจะถูกเชิญตัวออกมาที่ด้านนอก
ด้านนายเอ พ่อเลี้ยง ระบุว่า ตนไม่ได้พักอาศัยอยู่กับแม่ของเด็กบ่อยนัก บางครั้งจะต้องออกไปทำงานข้างนอก ยืนยันว่าไม่ได้ลงมือทำร้ายร่างกาย ด.ญ.การ์ตูน ตามที่ถูกกล่าวหา แต่ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ที่เป็นข่าวมีการตีลูกเลี้ยงจริง โดยใช้ไม้แขวนเสื้อตีจนเกิดรอยฟกช้ำตามร่างกาย ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเคยถูกตำรวจเรียกเข้าไปสอบปากคำในเรื่องทำร้ายร่างกายแล้ว แต่ไม่ได้ถูกดำเนินคดีในส่วนนี้ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ซึ่งตนก็เข้าสู่กระบวนการเสียค่าปรับในชั้นศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นแม่ของเด็กก็มักจะพาลูกสาวออกไปทำงานด้วย โดยจะไม่ให้อยู่กับตนเหมือนเช่นเดิม
นายเอ ยังระบุอีกว่า ยอมรับด้วยความบริสุทธิใจว่า ตั้งแต่ที่ลูกเลี้ยงกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้งตนไม่เคยลงมือทุบตี หรือ ทำร้ายร่างกายอีกเลย และหากมีพยานมาระบุว่าตนทำร้ายร่างกายลูกเลี้ยง ตนก็ขอปฏิเสธ เพราะตนยืนยันว่าไม่เคยทำร้ายร่างกายจริงๆ แต่ยอมรับว่าเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนยังข้องเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พาไปตรวจร่างกายก็จะพบสารเสพติดอย่างแน่นอน เนื่องจากเสพยาบ้าเข้าไป
น.ส.บี กล่าวว่า ยอมรับว่าในครั้งก่อนตนพาลูกสาวไปพักที่บ้านญาติย่านบางบัวทองจริง เพื่อไม่ให้เป็นคดีความ พร้อมยอมรับว่า ตนเป็นคนตีลูกสาวในครั้งนั้น สาเหตุเพราะลูกสาวดื้อไม่ยอมฟังคำสั่ง และสามีก็เป็นคนตีด้วยไม้แขวนเสื้อเท่านั้น แต่พอเป็นคดีความและมีการช่วยเหลือลูกสาวไปแล้ว ไม่ถึงหนึ่งเดือน ทาง พ.ม.ก็โทรศัพท์ติดต่อมาที่แม่ของตน เพื่อจะส่ง ด.ญ.การ์ตูน คืน เหตุเพราะลูกสาวไม่สามารถที่จะอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ได้ มีการร้องไห้ตลอดเวลา จึงได้รีบลูกสาวกลับมาอยู่ด้วยเป็นเวลา 2-3 เดือนแล้ว
น.ส.บี กล่าวอีกว่า หลังจากได้ลูกสาวคืนมา เวลาลูกสาวดื้อ ก็ไม่เคยตีลูกอีกเลย มีเพียงการใช้วาจาเสียงดังในการสั่งสอนเท่านั้น ส่วนรอยฟกช้ำที่ปรากฎล่าสุด ตนยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากการทำร้ายร่างกาย แต่เกิดจากรอยของหม้อหุงข้าว ซึ่งปกติตนไม่ค่อยได้หุงข้าวอยู่แล้ว แต่วันเกิดเหตุตนได้ข้าวสารมา และอุ่นข้าวเอาไว้ แต่ลูกสาวซนวิ่งมาเอาแขนวางไว้บนหม้อหุงข้าว จนเกิดบาดแผล ส่วนรอยอื่นๆเกิดจากการพาลูกสาวไปทำงานด้วย เนื่องจากตนมีอาชีพแม่บ้าน ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีสุนัขตัวใหญ่อยู่ด้วย ลูกสาวและลูกของเจ้าของบ้านก็ไปเล่นกับสุนัข แต่ลูกสาวโดนสุนัขข่วนตามร่างกาย จนเกิดแผล ซึ่งเมื่อตนรู้เรื่องก็รีบพาลูกสาวไปหาหมอทำแผลทันที
ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายลูกสาวแต่อย่างใด และไม่ได้ปกป้องสามีด้วยเช่นกัน แต่รอยแผลเกิดจากการที่ลูกสาวซุกซนตามประสาเด็กเท่านั้น ยืนยันมีชาวบ้านเป็นพยานได้ ซึ่งหาก พ.ม.จะขอนำลูกสาวไปดูแล ตนก็จะขอปรึกษากันก่อน เพราะอยากจะขอทำหน้าที่ในการเลี้ยงดูลูกสาวเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าตัวเองก็เสพยาเสพติดกับสามีเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกัน
ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถาม น.ส ลิโด อายุ 28 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงห้องพักของเด็กที่ถูกทำร้าย เปิดเผยว่า มีผู้ที่อยู่ในห้องพักใกล้กลับห้องของเด็กได้ยินเสียงเด็กร้องบ่อยครั้งในช่วงประมาณตีสี่ตีห้าลักษณะเหมือน ถูกทำร้ายร่างกายแบบทรมาร ซึ่งพ่อเลี้ยงและแม่ของเด็ก อ้างกับชาวบ้านว่าบาดแผลที่เกิดตามตัวลูกนั้นมาจากเพราะถูกสุนัขข่วน ชาวบ้านหลายคนก็ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเกิดเพราะถูก พ่อเลี้ยงและแม่ทำร้ายร่างกายถึงได้ส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือดังกล่าว
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะพาตัว ด.ญ.การ์ตูน ไปตรวจร่างกายที่ รพ.รามาธิบดี เพื่อตรวจสอบบาดแผลการถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากนั้นจะพาไปดูแลในเบื้องต้น ส่วนพ่อเลี้ยงและแม่ จะถูกพาตัวเข้าสู่กระบวนการตรวจหาสารเสพติด หากพบสารในร่างกาย ก็จะเข้าสู่กระบวนการบำบัดตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป