ตร.นำตัว “เจษฎา” เมีย “เอ็ม” ฝากขังศาลอาญา ปัดตอบคำถามสื่อ พร้อมยกมือไหว้

กรุงเทพมหานคร-เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นางสาวเจษฎา มีเพียร ภรรยาของนายส่องศักดิ์ ส่งแสง หรือเอ็ม ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา สน.บางเขน ไปยังห้องสอบสวน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจากเมื่อวานนี้ มีการออกหมายจับนางสาวเจษฎา ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นได้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย ลอบฝังซ่อนเร้นย้าย หรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย

ผู้ใดเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ หรือให้รับโทษทำให้เสียหายทำลายซ่อนเร้นเอาไปเสียหรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ซึ่งหลักฐานในการกระทำความผิด ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไปหรือเพื่ออำพรางคดี

โดยเมื่อคืนนี้ ชุดสืบสวน สน.บางเขน ได้ควบคุมตัวนางสาวเจษฎา ไปชี้จุดพบชิ้นส่วนกระดูก ริมถนนพหลโยธิน ช่วงกิโลเมตรที่ 25 เพื่อให้ได้พิกัด จุดทิ้งศพลูกเมื่อปี 2559 และ ปี 2561 ที่ชัดเจน ซึ่งนางสาวเจษฎา ได้ชี้ที่บริเวณทางออกปั๊มน้ำมัน

ล่าสุด เวลา 08.30 น. หลังสอบปากคำเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนางสาวเจษฎา กลับมาพิมพ์ลายนิ้วมือที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อเตรียมจะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญา รัชดาภิเษก ฝากขังผัดแรก ซึ่งตอนที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำตัวนางสาวเจษฎามาส่ง ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งนางสาวเจษฎา ก็ได้ยกมือไหว้แล้วบอกขอบคุณเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน โดยสังเกตได้ว่า นางสาวเจษฎา มีท่าทีที่ผ่อนคลายขึ้นกว่าเดิม และในช่วงสายวันนี้ จะมีการควบคุมตัวไปส่งฝากขังที่ศาลต่อไป

นอกจากนี้ มีรายงานว่า ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัว นางสาวเจษฎาไปฝากขังนั้น นางสาวเจษฎา ได้ขอพูดคุยกับลูกสาว อายุ 12 ปี เป็นครั้งสุดท้าย เจ้าหน้าที่จึงประสานเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กของ พม. ให้วิดีโอคอลมาพูดคุย ซึ่งนางสาวเจษฎาได้ขอพูดคุยกับลูกเป็นการส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 1 นาที

ต่อมา เวลา 09.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมตัว นางสาวเจษฎา ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหาเพื่อนำมาขึ้นรถไปศาลอาญา รัชดาภิเษก โดยทันทีที่เดินออกมาแล้วเห็นสื่อมวลชน นางสาวเจษฎา ได้ยกมือไหว้ แต่เดินก้มหน้า สีหน้าเศร้า พร้อมส่ายหน้าหลายครั้ง ซึ่งผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ยืนยันในจุดที่ชี้ต่อตำรวจเมื่อวานนี้หรือไม่ / ยอมรับว่าร่วมกระทำผิดตามข้อหาที่ตำรวจแจ้งหรือไม่ / มีอะไรจะฝากทำบุญถึงลูกที่เสียชีวิตไปหรือไม่ / อยากขอโทษหรือพูดอะไรหรือไม่ แต่นางสาวเขษฎา ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ควบคุมตัวนางสาวเจษฎา ขึ้นรถออกไป

ขณะที่ พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการที่เมื่อคืนนี้ได้นำตัวนางสาวเจษฎา ไปชี้จุดที่ทิ้งศพของเด็กทารก เมื่อปี 2559 และ 2561 ซึ่งนางสาวเจษฎาได้ชี้บริเวณที่ถูกก่อสร้างเป็นปั๊มน้ำมันไปแล้ว หลังจากนี้ จึงต้องรอคณะกรรมการประชุมร่วมกันก่อนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานแล้ว และสภาพแวดล้อมในจุดดังกล่าวก็มีการเปลี่ยนแปลงไป การชี้จุดของนางสาวเจษฎาก็สามารถคลาดเคลื่อนได้ ดังนั้น หากมีการทุบเพื่อขุดหาพยานหลักฐานแล้วปรากฏว่าไม่ใช่จุดทิ้งศพที่ถูกต้อง ก็จะทำให้เกิดความเสียหาย

ทั้งนี้ ยืนยันว่าพยานหลักฐานที่พบศพเด็กทั้ง 2 ศพ ในพื้นที่ สน.บางซื่อ ซึ่งมีดีเอ็นเอตรงกันกับ นางสาวเจษฎา นั้น เพียงพอต่อการดำเนินคดีแล้ว แต่ตำรวจก็ต้องการทำคดีให้รัดกุมครบถ้วนมากที่สุด