พฤหัส. พ.ย. 28th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าว พบต่างด้าวอัดเเน่นเต็มกระบะกว่า 10 คน

1 min read

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. (รรท.ผบก.ทล.), พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ปรท.รอง ผบก.ทล.พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.กปภ.รรท.ผกก.2 บก.ทล.,พ.ต.ท.วิศษฏ์ มินเสน รอง ผกก.2 บก.ทล., พ.ต.ท.นโรตม์ ยุวบูรณ์ รอง ผกก.6 บก.ปปป.รรท. รอง ผกก.2, พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล.

​เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ร.ต.อ.อำนาจ สีนวล, ร.ต.อ.พงษ์เชษฐ์ นุ่มมาก รอง สว.ส.ทล.๖ กก.๒ บก.ทล., ร.ต.ท.ณัฐ ปิ่นกระจัน, ร.ต.ท.ปณิธาน ใจชื้น รอง สว.(ป.) ส.ทล.๖ กก.๒ บก.ทล., จ.ส.ต.ธงชัย ศรีเรือนงาม, ส.ต.ท.เดโชพล นิลเพ็ชร ผบ.หมู่ ส.ทล.๖ กก.๒ บก.ทล.

​ร่วมกันจับกุม
​1. นายประกิจฯ​​​​อายุ ๓๒ ปี ​สัฐชาติไทย​​ผู้ต้องหาที่ 1
๒. นายซอมิน​​ไม่มีชื่อสกุล ​อายุ ๓๑ ปี ​สัญชาติ เมียนมา ​ผู้ต้องหาที่ 2
๓. นายไชอ่อง​​ไม่มีชื่อสกุล​อายุ ๓๐ ปี​สัญชาติ เมียนมา ผู้ต้องหาที่ 3
๔. นายอ่องนาย​​ไม่มีชื่อสกุล​อายุ ๓๙ ปี​สัญชาติ เมียนมา​ผู้ต้องหาที่ 4
๕. นายอ่องกูกู​​ไม่มีชื่อสกุล ​อายุ ๒๙ ปี ​สัญชาติ เมียนมา ​ผู้ต้องหาที่ 5
๖. นายยีทิวเมา​​ไม่มีชื่อสกุล​อายุ ๑๙ ปี​สัญชาติ เมียนมา ผู้ต้องหาที่ 6

  1. นายซูหวิน​​ไม่มีชื่อสกุล​อายุ ๔๒ ปี​สัญชาติ เมียนมา​ผู้ต้องหาที่ 7
  2. นายลาดยี​​ไม่มีชื่อสกุล ​อายุ ๒๐ ปี ​สัญชาติ เมียนมา ​ผู้ต้องหาที่ 8
  3. นางเซมมาเอ​​ไม่มีชื่อสกุล​อายุ ๓๑ ปี​สัญชาติ เมียนมา ผู้ต้องหาที่ 9
  4. นางเคซามเวน​ไม่มีชื่อสกุล​อายุ ๓๑ ปี​สัญชาติ เมียนมา ผู้ต้องหาที่ 1๐

​พร้อมตรวจยึดของกลาง

  1. รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็กซ์ สีเทา จำนวน 1 คัน

​สถานที่จับกุม ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ กม.60 (ขาเข้า อ.อู่ทอง) หมู่ที่ 9 ต.หนองขาม อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี

​พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ได้มีการสืบสวนจับกุมขบวนการนำพาหรือช่วยเหลือบุคคลแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในเส้นทางพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี อยู่บ่อยครั้ง จึงได้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ กทม. และ ปริมณฑล โดยใช้เส้นทางผ่าน จ.สุพรรณบุรี
​โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า จะมีการลักลอบนำพาบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยใช้เส้นทางต้นทางจาก อ.วังเจ้า จ.ตาก ผ่าน จ.กำแพงเพชร-จ.นครสวรรค์-จ.อุทัยธานี- จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจึงได้ออกตรวจสังเกตการณ์ในเขตพื้นที่ตามที่ได้รับข้อมูล โดยพบรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็กซ์ สีเทา ขับขี่มาตามถนนด่านช้าง – อู่ทอง ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ กม.60 ขาเข้า อ.อู่ทอง ซึ่งลักษณะรถบรรทุกสิ่งของหนัก โดยสังเกตรถยนต์มีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ สอดคล้องต้องสงสัยว่ามีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการขนย้ายแรงงานต่างด้าว จึงได้ขับขี่ติดตามรถยนต์คันดังกล่าวในระยะประชิด และได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยการเปิดสัญญาณไฟไซเรน และใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟน เพื่อให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อจะได้ทำการตรวจค้น เมื่อรถคันดังกล่าวพบเห็นรถยนต์ตรวจการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจขับติดตามมาและได้เห็นสัญญาณไฟรวมถึงได้ยินเสียงคำสั่งเจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดรถ จึงได้หยุดรถตรงบริเวณถนนด่านช้าง – อู่ทอง ทางหลวงหมายเลข ๓๓๓ กม.60 หมู่ ๒๑ ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

จากการตรวจค้นปรากฏว่าพบนายประกิจฯ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอเข้าทำการตรวจค้น ปรากฎว่าพบผู้ต้องหาที่ 2-10 นั่งอยู่ภายในบริเวณช่องว่างด้านหลังผู้ขับขี่ภายในรถยนต์คันดังกล่าว จึงได้ให้ผู้ต้องหาที่ 2-๑๐ แสดงเอกสารหลักฐานประจำตัว ตรวจสอบไม่พบเอกสารยืนยันตัวตนที่ราชการออกให้ สอบถามผู้ต้องหาที่ 2-๑๐ ไม่สามารถสื่อสารหรือพูดภาษาไทยได้ จึงได้ตรวจสอบเอกสารโดยละเอียด จากการตรวจสอบปรากฏว่าทั้งหมดไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เเจ้งข้อกล่าวหาและได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม และนำตัวผู้ต้องหาพร้อมด้วยของกลางส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หนองหญ้าไซ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

​จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าว ไปรับผู้ต้องหาที่ 2 – ๑๐ ภายในป่าละเมาะห่างจากถนนพหลโยธินประมาณ ๑๐ กม. อ.วังเจ้า จ.ตาก ซึ่งมีนายเต้าฯ ติดต่อให้ไปรับผู้ต้องหาที่ 2 – ๑๐ ในบริเวณดังกล่าว เมื่อได้รับมาแล้ว นายประกิจฯ ให้การว่าได้เดินทางออกจากจังหวัดตาก ผ่านจังหวัดกำแพงเพชร, อุทัยธานี, จนมาถึงจังหวัดสุพรรณบุรี และผู้ต้องหาได้รับเพิ่มอีกว่าได้ลักลอบขนย้ายบุคคลต่างด้าวครั้งนี้เป็นครั้งแรก ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวนรายละ ๘00 บาท (จะได้รับค่าตอบแทนทั้งหมดเป็นเงิน จำนวน ๗,200 บาท หากเสร็จสิ้นการขนย้ายบุคคลต่างด้าว)

จากการสอบถาม บุคคลต่างด้าว/ผู้ต้องหาที่ ๒ โดยมี นางซันเอ อาสาสมัครล่าม แปลภาษาเมียนมาฯ ในการสอบถาม ให้การยอมรับว่า ผู้ต้องหาที่ ๒ – 10 ได้เดินทางมาจาก เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา โดยการนั่งเรือข้ามฝั่งมาทางช่องทางธรรมชาติ มาลงเรือที่ฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก จากนั้นเดินเท้าต่ออีกประมาณ ๓๐ นาที และจะมีรถยนต์กระบะมารับถที่บริเวณป่าละเมาะ เพื่อเดินทางต่อไป โดยบุคคลต่างด้าวทั้งหมด มีการติดต่อกับนายหน้าฝั่งประเทศไทยและประเทศเมียนมาหลายคน จะต้องจ่ายเงินเป็นค่าการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จำนวนประมาณ ๒๒,000 บาท โดยได้จ่ายเงินให้นายหน้าชาวเมียนมาเป็นผู้รวบรวมเงินจากฝั่งประเทศเมียนมาก่อนออกเดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทย

Loading…

More Stories

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.