“กัน จอมพลัง” พาหญิงสาวผู้เสียหาย ถูกอดีตแฟนหนุ่มแอบถ่ายภาพลับ เพื่อขอคืนดี ติดตามความคืบหน้าของคดี
1 min readกรุงเทพมหานคร-นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พา นางสาวโอ๋ ผู้เสียหาย อายุ 44 ปี ผู้เสียหายที่ถูกนายบอย อดีตแฟนหนุ่มวัย 42 ปี โพสต์ภาพที่แอบถ่ายขณะตนเองเปลือยในห้องนอนเพื่อขอคืนดี เดินทางมาที่ สน.คันนายาว เพื่อมาติดตามความคืบหน้าของคดี หลังจากได้มาแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว
โดยกรณีนี้ ผู้เสียหายได้ถูกอดีตแฟนหนุ่มที่เพิ่งบอกเลิกไปโพสต์ภาพที่แอบถ่ายตนเองขณะเปลือยในห้องนอน เพื่อที่จะขอให้ผู้เสียหายกลับไปคืนดี แต่ผู้เสียหายไม่ยอม จึงหนีไปอยู่บ้านเพื่อนทำให้ฝ่ายชายตามมาดักรอเจอ ซึ่งพอผู้เสียหายเห็นฝ่ายชาย จึงพยายามขับรถหนี แต่ฝ่ายชายมากระโดดเกาะหน้ารถ และทุบกระจกจนแตก ซึ่งผู้เสียหายรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงมาร้องขอความช่วยเหลือกับนายกัน จอมพลัง
กัน จอมพลัง กล่าวว่า ผู้เสียหายได้มาร้องขอความช่วยเหลือ และเล่าว่าในระหว่างที่อยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายจะมีอารมณ์หึงหวง ชอบใช้ความรุนแรง บางครั้งถึงขั้นใช้มีดจี้คอ จึงรู้สึกว่าไม่อยากอยู่ด้วยแล้วและตัดสินใจบอกเลิก ซึ่งฝ่ายชายก็ขู่ว่าจะปล่อยภาพลับ โดยเป็นภาพที่ผู้เสียหายไม่ได้เต็มใจถ่ายแต่ถูกแอบถ่าย ผู้เสียหายจึงหนีไปอยู่กับเพื่อน ฝ่ายชายก็ไปดักรอเจอ ตอนผู้เสียหายกำลังจะออกจากที่พัก และเข้ามากระโดดเกาะหน้ารถ ทุบกระจกรถ ซึ่งหากจะถามว่า ทำไมผู้เสียหายถึงไม่จอดรถ ตนมองว่าทำถูกแล้ว เพราะถ้าฝ่ายชายตกจากหน้ารถไป ผู้เสียหายไม่ถือว่ามีความผิดเพราะฝ่ายชายพยายามจะเข้ามาทำร้ายคุกคามก่อน ผู้เสียหายมีสิทธิปกป้องตัวเอง ทั้งนี้ ผู้เสียหายอยากให้ฝ่ายชายเลิกคุกคาม และต้องการดำเนินคดี เพราะหลังเป็นข่าวไป ฝ่ายชายได้มีการโพสต์ว่า ชีวิตไม่มีอะไรจะเสีย บอกลาพ่อแม่แล้ว จะมาตามเอาให้ถึงที่สุด พอผู้เสียหายเห็นโพสต์จึงรู้สึกไม่ปลอดภัย
ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนคบหากับฝ่ายชายมาได้ประมาณ 1 ปีกว่า ตอนที่อยู่ด้วยกัน ฝ่ายชาย พยายามทำทุกอย่างให้ตนอยู่กับเขา ซึ่งมันรุนแรงเกินไป ตนอยากอยู่แบบมีความสุข ไม่ใช่มาถูกทำลาย ล้างผลาญทุกอย่าง ทั้งเอามีดจี้คอ ขว้างปาข้าวของ โทรศัพท์มือถือจนพังเสียหาย ตนทำงานหาเงินมาเหนื่อย แต่ก็ยังต้องมาเป็นหนี้ ส่วนที่ทำให้ตัดสินใจเลิกเลย เพราะฝ่ายชาย มักระแวง และหึงหวง ถึงขั้นพูดว่า ถ้ามีใครโทรมาคุยกับตนแล้วเขาไม่รับรู้ “มึงนอนในโลง กูนอนในคุก” และฝ่ายชายก็ยอมรับกับตนเองว่าได้เสพยาบ้าด้วย ตนจึงกลัวว่าหากอยู่ต่อไป ตนอาจจะโดนฆ่าตายก็ได้ และตอนหลัง ก็เพิ่งมาทราบจากแฟนเก่าของฝ่ายชายว่า เขาโดนทำร้ายเหมือนกันเลยต้องหนีออกมา
สำหรับเรื่องภาพลับนั้น ตอนอยู่ด้วยกัน เป็นแฟนกัน ตนก็ไม่ได้คิดว่าจะถูกแอบถ่าย แต่ฝ่ายชายแอบถ่ายตนตอนที่ถอดเสื้อผ้า และเวลาที่ตนวิดีโอคอลคุยด้วยตอนเข้าห้องน้ำก็มีการถ่ายภาพหน้าจอไว้ เวลาที่มีเรื่องหึงหวง ก็จะเอาภาพเหล่านี้มาโชว์ แล้วบอกว่า มีหลักฐานทุกอย่าง ตนไปจากเขาไม่ได้หรอก และล่าสุด ก็มีการนำภาพเหล่านี้มาโพสต์ในคอมเมนต์ ซึ่งตอนนี้ตนยอมอับอาย แต่ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้ได้เลิกกัน
ส่วนวันที่เกิดเหตุที่ฝ่ายชายตามมาดักเจอนั้น ก่อนหน้าได้มีการขู่ว่ารู้ที่อยู่ตนแล้ว และโทรเข้ามาเยอะมากแต่ตนไม่รับ ตอนลงมาจากที่พัก ตนจึงมองซ้ายมองขวา แล้วก็เจอจริงๆ ฝ่ายชายพยายามจะเข้ามาขอคุย แต่ตนไม่คุยแล้ว เพราะให้โอกาสไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จึงขึ้นรถจะขับหนี ฝ่ายชายก็กระโดดเกาะหน้ารถ ทุบกระจก และเอื้อมมือเข้ามาปลดล็อกเปิดประตูรถ ลากตัวตนออกมาจากรถ และหลังจากเหตุการณ์วันนั้น ก็ยังโทรมาข่มขู่อีก และล่าสุด ยังโพสต์เหมือนว่า ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าตนตายเขาก็ยอมติดคุก ทำให้ตนรู้สึกหวาดระแวง และกลัวมาก ตนอยากให้จบกันด้วยดี ต่างคนต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตัวเอง
พันตำรวจเอกนเรนทร เครื่องสนุก ผู้กำกับการ สน.คันนายาว กล่าวว่า เบื้องต้น ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้แล้ว 2 ครั้ง คือวันที่ 13 ตุลาคม 2566 ในข้อหานำภาพลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ / และวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ และได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหาให้มาพบแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงวันที่กำหนดในหมายเรียก ซึ่งได้ให้ฝ่ายสืบสวน พยายามไปเชิญตัวมาแล้ว แต่ยังไม่เจอตัว ทั้งนี้ หากดูจากพฤติการณ์แล้วพบว่า ผู้ต้องหามีการข่มขู่ คุกคามมากขึ้น ก็ต้องใช้มาตรการที่ชัดเจนขึ้น อาจดำเนินการขอหมายจับแทนหมายเรียก / ส่วนเรืาองความปลอดภัยของผู้เสียหาย หากมีการถูกคุกคาม รู้สึกปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ให้โทรหาตนโดยตรงได้ทันที ตนจะส่งเจ้าหน้าที่สายสืบ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามเข้าไปช่วยเหลือดูแล / กรณีภาพลับ จะตรวจสอบว่าได้มีการนำไปโพสต์ที่ไหนบ้าง จะทำการระงับ รวมถึงตรวจสอบในโทรศัพท์ของผู้ต้องหา ให้ลบภาพ ไม่ให้นำไปโพสต์ได้อีก พร้อมจะตรวจร่างกายหาสารเสพติดในตัวผู้ต้องหาด้วย แต่เบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีประวัติเกี่ยวกับการเสพยาเสพติด
ขณะที่ภาพกล้องวงจรปิด วันที่ 13 ตุลาคม 2566 เวลา 06.02 น. จะเห็นว่า ผู้เสีบหายได้ขับรถเก๋งสีขาวผ่านมา โดยมีฝ่ายชายกระโดดเกาะอยู่บริเวณหน้ารถ
จากนั้น ผู้เสียหายได้มาจอดรถอยู่ตรงป้อมยาม ที่มี รปภ. อยู่ ซึ่ง รปภ. ได้เข้าไปพูดคุยกับฝ่ายชายที่กำลังนั่งอยู่บริเวณหน้ารถของผู้เสียหาย