ชุดปฏิบัติการพิเศษบุกจู่โจมทลายผับดัง ย่านหทัยราษฎร์ ลำลูกกา ปทุมธานี ไร้ใบอนุญาต ตะลึง เจอฉี่ม่วง มากถึง 137 คน

ปทุมธานี-อธิบดีกรมการปกครอง เปิด “ปฏิบัติการราชสีห์” นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษบุกจู่โจมทลาย ผับดัง ย่านหทัยราษฎร์ ลำลูกกา ปทุมธานี ไร้ใบอนุญาต หนำซ้ำยังพบนักเที่ยวอัพยาไม่เกรงกลัวกฎหมาย เจอฉี่ม่วง มากถึง 137 คน เตรียมชง ผู้ว่าฯ ปทุม สั่งปิด 5 ปี

วันนี้ (22 ต.ค. 66) เวลา 01.45 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครองนำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ซึ่งมีนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ เป็นหัวหน้าชุด พร้อมด้วยพนักงานฝ่ายปกครอง และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน บูรณาการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 1 นำโดย ว่าที่ร้อยตรี อากาศ ปานแย้ม ผู้เชี่ยวชาญสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค1 พร้อมกำลังเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เข้าจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมาย ไร้ใบอนุญาตสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานประกอบการ ใน อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า การปฏิบัติการในวันนี้เป็นไปตามนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม การแก้ไขปัญหายาเสพติด และการปราบปรามผู้มีอิทธิพล เพื่อสร้างสังคมให้สงบสุข บ้านเมืองมีความเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงข้อสั่งการของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้กำชับให้กรมการปกครอง ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในการจัดระเบียบสังคมเพื่อเสริมสร้างความผาสุกในสังคมไทย พี่น้องประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข ไม่ต้องหวาดระแวงกับภยันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้อาวุธ การทะเลาะวิวาท หรือได้รับความเดือดร้อนจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบชุมชน เช่น สถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ที่มักจะลักลอบเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด และยังอาจเป็นแหล่งมั่วสุมกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการในวันนี้ เป็นการตัดวงจรการแพร่ระบาดของยาเสพติด เพื่อป้องกันไม่ให้สถานบริการเป็นสถานที่กระจายยาเสพติดไปสู่นักเที่ยวด้วยอีกทางหนึ่งด้วย

“ปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับในย่านหทัยราษฎร์ – สายไหม ในพื้นที่อำเภอลำลูกกาครั้งนี้ สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทยว่ามีสถานบริการปล่อยเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ มีการปล่อยให้ใช้ยาเสพติดและมีการจำหน่ายยาเสพติดภายในร้าน การ์ดของร้านมีพฤติการณ์พกอาวุธปืน อ้างอิทธิพลคนในพื้นที่ ทั้งปล่อยนักเที่ยวบางคนพกพาอาวุธปืน และเปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ให้บริการถึง 6 โมงเช้า ทั้งยังเคยมีประวัติเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปเที่ยวเมาและขับรถตกทางด่วนเสียชีวิต และมีข่าวยิงกันตายภายในร้าน แต่ร้านยังคงได้เปิดตามปกติ อยากให้หน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบจับกุม” นายอรรษิษฐ์ฯ กล่าวในช่วงต้น

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวต่ออีกว่า กรมการปกครอง โดยชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองมอบหมายให้พนักงานฝ่ายปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงได้พบว่า “มีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน” กระทั่งเวลา 01.45 น. ได้เปิดปฏิบัติการจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที โดยเมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับพบเป็นห้องทึบ เปิดเพลงเสียงดังสนั่น แสงไฟเลเซอร์วิบวับ พบนักเที่ยวจำนวนเกือบ 300 คน กำลังมั่วสุมดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างเมามัน ทั้งยังสูบบุหรี่พ่นควันคละคลุ้ง พนักงานฝ่ายปกครองจึงสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟให้แสงสว่าง ภายในผับได้เกิดความโกลาหล นักเที่ยวหลายคนต่างโยนยาเสพติดทิ้งออกจากตัว และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้านและหลังร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

จากการเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าในลักษณะเป็นสถานบริการ มีการขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยว ดื่มกิน เต้นรำ แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด และ “ที่สำคัญ” สถานบริการแห่งนี้มีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในร้าน ซึ่งตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น มีลักษณะเป็นผงสีขาว ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นยาเคตามีน โดยพบนักเที่ยวจำนวนเกือบ 300 คน เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 5 คน และไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 21 คน และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น คือ จากการนำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นตรวจสอบ จำนวน 291 คน พบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวนมากถึง 137 คน” นายอรรษิษฐ์ฯ กล่าว

นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ พนักงานฝ่ายปกครองได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด 1) ฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.โดยเปิดสถานบริการภายในระยะเวลา 5 ปี นับแต่วันที่มีคำสั่งปิด 5 ปี 2) เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 3) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 4) ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย และ 5) ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร ทั้งนี้ ในส่วนของนักเที่ยวที่มีปัสสาวะสีม่วง เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ได้นำเข้ากระบวนการตามกฎหมายต่อไป

ผับดังกล่าว มีกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายโดยชัดแจ้ง ทั้งการไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการขายและเสพยาเสพติดภายในร้าน ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง จากนี้จะได้สั่งการให้นายอำเภอลำลูกกา รายงานเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีมีคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ 5 ปี ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป ซึ่งต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่แจ้งเบาะแสมายังกรมการปกครอง ผ่านศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย เพราะทุกเรื่องเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ชาวกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย จะต้องเข้าแก้ไขปัญหาโดยทันที เฉกเช่นการปฏิบัติการครั้งนี้ และหากพี่น้องประชาชนมีเบาะแสการกระทำผิดกฎหมายหรือได้รับความเดือดร้อนทุกเรื่อง สามารถแจ้งมายังผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ปลัดอำเภอ นายอำเภอในพื้นที่ หรือศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอรรษิษฐ์ฯ กล่าวในช่วงท้าย