ตำรวจแถลงข่าว จับ ลูกเขย “ชาดา” พร้อมพวก เอี่ยวรีดเงินผู้รับเหมา เหยื่อแฉซ้ำอิทธิพลมืดคุกคาม
1 min readพ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ รอง ผบก.ป.ป.ป. กล่าวถึงคดีดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากมีผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง 2 ราย เข้าประมูลทำโครงการก่อสร้างระบบประปา ในพื้นที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน และ ต.หาดทนง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ระยะเวลาสัญญา 7 เดือน ถูกบุคคลลึกลับโทรมาข่มขู่ ให้ถอยหรือยกเลิกออกจากการประมูลโครงการก่อสร้างระบบประปา อ้างว่าจะมีบุคคลในบ้านใหญ่สนใจที่จะทำเอง พร้อมทั้งเสนอเงินชดเชยเป็นเงินจำนวน 10,000 บาท โดยที่ไม่ต้องซื้อซองประมูล ส่วนผู้ประกอบการที่ประมูลโครงการฯได้ไปแล้วนั้น ขอให้ยุติดำเนินการทันที โดยจะมีเงินชดเชยให้คิดเป็นเปอร์เซ็นต์จากความคืบหน้าของโครงการฯ
หากไม่ยอมรับข้อเสนอจะถูกกีดกันเรื่องการซื้อขายวัสดุในการก่อสร้าง เช่น ไม้ ปูน อิฐ ทำให้ไม่สามารถหาซื้อวัสดุได้ โครงการฯไม่สามารถดำเนินการต่อได้ จนทำให้ผู้ประกอบการตัเสินใจเข้าร้องทุกข์กับทางป.ป.ป. เจ้าหน้าที่จึงได้นำพยานทั้ง 2 คน เข้ารับการคุ้มครองพยานโดยทันที และทำการสืบสวนสอบสวนจนสามารถทำการขอหมายค้นและหมาย ติดตามจับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ 5 ราย คือ 1.นายวีระชาติ นายกเทศบาลตลุกดู่ 2.นายธนภัสสร์ ตำแหน่งปลัดเทศบาลตลุกดู่ 3.นายกุลธัช ผู้ช่วยนายช่างโยธาเทศบาลตลุกดู่ ถูกแจ้งข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และ ม.149 ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน 4. นายมานพ และ นายยิ่งยง ถูกแจ้งข้อหา สนับสนุนเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน และ สนับสนุนเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ
ด้าน นายศรชัย ชูวิเชียร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เผยว่า คดีดังกล่าว ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ได้กำหนดให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเป็นเวลา 30 วัน ก่อนจะส่งสำนวนให้คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาในการว่าเห็นชอบว่า จะเป็นคนดำเนินการเอง หรือ จะส่งสำนวนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นคนดำเนินการ ซึ่งขึ้นอยู่กับทางคณะกรรมการเป็นผู้พิจารณาทั้งสิ้น
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแด้ว ผบก.ปปป. กล่าวว่า ในหลายๆพื้นที่ยังมีพฤติการณ์แบบคดีดังกล่าว ใช้อำนาจข่มขู่ผู้ประกอบธุรกิจในโครงการอื่นๆอีกมาก ซึ่งตรงนี้ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายปราบปรามผู้มีอิทธิพลในประเทศไทย ซึ่งภายหลังจากทำการจับกุม นายวีระชาติ ลูกเขยของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้มีการพูดคุยถึงกรณีดังกล่าวแล้ว โดย นายชาดา เองก็ไม่ได้ขอให้ช่วยหรือใช้เส้นสายอะไร แต่ขอให้ดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมาย เพราะนายชาดาได้พูดเตือนกับนายวีระชาติแล้ว ว่าให้เลิกกระทำอันที่ไม่ดี หากยังมีพฤติกรรมใช้อำนาจขมขู่ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ก็ขอให้ดำเนินไปตามขั้นตอนกฎหมาย
ส่วน นายวีระชาติจะเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่หรือไม่นั้น ยังต้องให้พนักงานสอบสวนทำการตรวจพยานหลักฐานทั้งหมด ก่อนจะระบุว่าเป็นผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอุทัยธานี