ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกรวบอาแท้ๆ หลอกหลานสาวค้ากาม เปิดร้านนวดสปาบังหน้า
1 min readกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม., พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าจับกุมตัว น.ส.หยาดพิรุณฯ หรือตั๊ก อายุ 38 ปี ภายในร้านคาราโอเกะ & นวดสปา แห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบค้นข้อมูลที่อาจเกี่ยวข้องกับการแสวงหาประโยชน์ทางเพศจากบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จากแหล่งข้อมูลทางเฟซบุ๊ก พบเห็นผู้ใช้บัญชี “Yadpirune Narak” ทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.หยาดพิรุณฯ หรือตั๊ก ซึ่งคาดว่าเป็นเจ้าของสถานบริการ มีการโพสต์ข้อความเพื่อชักชวนบุคคลให้มาทำงานที่ร้าน คาราโอเกะ & นวดสปา แห่งหนึ่ง ใน อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ภายในกลุ่มรับสมัครงานต่าง ๆ และยังมีการระบุเพิ่มเติมว่า “เน้นงานออฟ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปคม. จึงได้ประสานข้อมูลกับองค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวด์ เรลโรด หรือ OUR นำลงพื้นที่ร้านเพื่อเก็บข้อมูล จากการสืบค้นจากแหล่งข้อมูลทางออนไลน์ ประกอบกับการลงพื้นที่ พบพนักงานที่คาดว่าอายุต่ำกว่า 18 ปี เบื้องต้น จำนวน 3 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงร่วมกับองค์การโอเปอร์เรชั่น อันเดอร์กราวด์ เรลโรด หรือ OUR และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมุษย์(พม.) จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อเข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย โดยได้วางแผนล่อซื้อและปลอมตัวเป็นนักเที่ยวมานั่งดื่มกินภายในร้าน โดยมี น.ส.หยาดพิรุณฯ หรือ ตั๊ก เชียร์ขายบริการทางเพศพนักงานหญิงของร้าน เรียกราคาค่าซื้อบริการที่ 1,500 บาท โดยได้จ่ายเงินสดทั้งหมดจำนวน 1,500 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวจับกุมและช่วยเหลือผู้เสียหาย
จากการสอบถาม น.ส.เอ ให้การว่า น.ส.หยาดพิรุณฯ มีศักดิ์เป็นอาแท้ๆ ก่อนหน้านี้ตนอาศัยอยู่ที่ จ.สกลนคร อาตั๊กบอกให้ตนและ น.ส.บี ซึ่งเป็นเพื่อน เดินทางมาจาก จ.สกลนคร เพื่อให้ช่วยขายน้ำปั่นและฝึกเรียนนวด แต่เมื่อมาถึง อาตั๊กกลับหลอกและพูดโน้มน้าวให้ตนขายบริการทางเพศกับลูกค้า จากพฤติการณ์จึงยืนยันได้ว่า น.ส.หยาดพิรุณฯ หรือตั๊ก เจ้าของร้าน มีส่วนรับรู้และแสวงผลประโยชน์จากการค้าประเวณีพนักงานหญิงที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจริง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และนำส่งพนักงานสอบสวนกก.5 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป