บุกรวบพ่อเลี้ยงหื่น ข่มขืนลูกเลี้ยงวัย 13 ปี อ้างเมาขาดสติ
1 min read
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การ
อำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิวัฒน์
ชัยสังฆะ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรีเทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ศรัณย์ศรีพักตร์สว.กก.5 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๕ บก.ป.ร่วมกันจับกุม นายสามารถฯ อายุ 53 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนครที่ 198/2566 ลง 24 ต.ค.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “กระทำอนาจารโดยการล่วงล้ำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบสามปี และพยายามกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่สามีหรือภรรยาของตนซึ่งเป็นผู้อยู่ภายใต้อำนาจด้วยประการอื่นใด (พ่อเลี้ยง) และกระทำความรุนแรงในครอบครัว” สถานที่จับกุม เคหะบางพลีต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ
พฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปลายเดือนธันวาคม 2564 นายสามารถ (ผู้ต้องหา) ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อเลี้ยงของ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) และมารดาของ ด.ญ.เอ ได้เดินทางกลับบ้านต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่อ.โพนนาแก้ว จ.สกลนคร เพื่อเยี่ยมญาติและมาหา ด.ญ.เอ ซึ่งอาศัยอยู่กับญาติที่บ้านต่างจังหวัด โดยขณะที่นายสามารถฯ (ผู้ต้องหา) กำลังร่วมวงสังสรรค์ดื่มสุรากับญาติๆ ภายในหมู่บ้าน
นายสามารถฯ ได้ทำทีเป็นแกล้งเมา และขอตัวกลับไปพักที่บ้านก่อน โดยเมื่อเข้าไปในบ้านพักได้พบ ด.ญ.เอ นอนหลับอยู่ นายสามารถฯ จึงได้เข้าไปล่วงละเมิดทางเพศและพยายามกระทำชำเรา ด.ญ.เอ อีกทั้งยังได้ข่มขู่ ไม่ให้ด.ญ.เอ บอกเรื่องดังกล่าวกับใคร ภายหลังจากก่อเหตุนายสามารถฯ จึงได้เดินทางกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ เช่นเดิม โดยทางญาติของ ด.ญ.เอ ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับ ด.ญ.เอ แต่อย่างใด จนกระทั่งภายหลังทางญาติสังเกตเห็นความผิดปกติของ ด.ญ.เอ เนื่องจากเห็นมีท่าทีซึมเศร้าผิดปกติจึงได้สอบถามจนทราบเรื่อง หลังจากนั้นทางญาติจึงได้พา ด.ญ.เอ เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สภ.โพนนาแก้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายสามารถฯ ได้หลบหนีมาทำงาน อยู่บริเวณพื้นที่จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการสืบสวนและเฝ้าติดตามจับกุมได้ในที่สุด
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การเพียงว่าในคืนดังกล่าว ตนได้ใช้มือลูบคลำ ด.ญ.เอ จริง โดยทำไปเพราะเมาสุรา จึงขาดสติ