ตร.บางใหญ่ จับคนร้ายตระเวนก่อเหตุขโมย อะไหล่รถยนต์หลายพื้นที่ ตรวจสอบประวัติพบคดีเก่าเพียบ
1 min readวันนี้ (27 ต.ค66) เวลา 16.00 น. ที่สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.รณภัฏ ทัมทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ท.ณัฐยุทธ์ แก้วปาน รองผกก.สส.สภ.บางใหญ่ พ.ต.ต.พายุ นิลละออ สว.สส.สภ.บางใหญ่ ได้ร่วมจับกุมตัวนายอธิรัตน์ กฤษณชาญดี อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 90 หมู่ 4 ต.ไร่ร อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 604/2566 ลงวันที่ 9 ก.ย.2566 โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพักอยู่ในเขต อ.ดอนเจเดีย์ จ. สุพรรณบุรี พร้อมของกลางคือ รถกระบะยี่ห้อ FORD รุ่น RANGER สีดํา หมายเลขทะเบียน กย1009นครปฐม และอะไหล่รถยนต์ที่ก่อเหตุขโมยมา ตำรวจแจ้งข้อหา ลักทรัพย์โดยทําอันตรายสิ่งกีดกั้นสําหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์โดยเข้าทางช่องทางซ่ึงได้ทําขึ้นโดยไม่ได้จํานงให้เป็นทางคนเข้า โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทํา ความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม ทําให้เสียทรัพย์ และบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ ของผู้อื่น
นายอธิรัตน์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ก่อเหตุลักทรัพย์มาหลายพื้นที่ขับรถกระบะไปเจอร้านที่มีอะไหล่รถยนต์ก็ไปก่อเหตุขโมยขึ้นรถ หลังก่อเหตุก็นำอุปกรณ์ที่ขโมยมาไปขายแล้วนำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ยืนยันว่าไม่ได้ติดยาและเล่นการพนัน หลังก่อเหตุได้ไปหลบตัวอยู่ที่จังหวัด สุพรรณบุรี ปกติตนทำอาชีพ ขายของเก่า ที่ก่อเหตุเพราะไม่มีเงิน และอยากขอโทษทางผู้เสียหายที่เดือดร้อนจากการกระทำของตน
พ.ต.อ.รณภัฏ ทัมทิมธงไชย ผกก.สภ.บางใหญ่ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 2 ก.ย.66 เวลาประมาณ 15.50 น. กล้องวงจรปิดภายในโกดังรถคลาสสิค แห่งหนึ่งย่านอำเภอบางใหญ่ บันทึกภาพนายอภิรัตน์ ผู้ต้องหาได้ใช้รถยนต์กระบะยี่ห้อ FORD รุ่น RANGER สีดำมาจอดบริเวณหน้าร้านดังกล่าว ก่อนเดินลงมาจากรถยนต์นำอุปกรณ์แก๊สหัวตัดเหล็ก ตัดประตูรั้วหน้าโกดังก่อนเดินเข้าไปขโมยทรัพย์สินอะไหล่รถคลาสสิคภายในร้านขึ้นรถกระบะขับหลบหนีไป หลังเกิดเหตุทางผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้ที่สภ.บางใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางใหญ่หลังได้รับแจ้งก็ประสานตำรวจชุดสืบสวนทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายได้หนีไปกบดานอยู่ที่จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบ้านเก่าของผู้ต้องหา ทางตำรวจจึงวางแผนก่อนเข้าจังกุมตัวพร้อมของกลางรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการตรวจสอบประวัตินายอธิรัตน์ฯ พบว่าเคยมีประวัติในคดีอาญาในข้อหา เสพยาเสพติด ในเขตพื้นที่ สภ. เมืองสุพรรณบุรี เมื่อปี พ.ศ.2550 และมีหมายจับในข้อหา ลักทรัพย์ ของ สภ.เมืองสมุทรสาคร