สุดทน! ผู้ใหญ่บ้านหญิงร้อง “ปวีณา” ถูกสามีตำแหน่ง สท. ทำร้ายร่างกายหนักนาน20ปี

 เมื่อวันที่ 31 ต.ค.66 เวลา14.30 น.ผู้ใหญ่บ้านหญิงในพื้นที่แห่งหนึ่ง จ.นนทบุรี ร้องเรียน "ปวีณา" หงสกุล“ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้นำหลักฐานคลิปแชทเดินทางไปที่ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี พาผู้ใหญ่บ้านหญิงรายหนึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านมาทั้งหมด 6 ปี มาพร้อมกับแม่ ไปแจ้งความกับ พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี  และพ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี 

หลังทนทุกข์กับสามี สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) มาร่วม 20 ปี ถูกทำร้ายร่างกายมาโดยตลอด เคยขู่จะใช้ปืนยิงตนและแม่ โดยขอแยกทางและต้องการดำเนินคดีกับสามีให้ถึงที่สุด

เนื่องจากเมื่อวานนี้ (วันที่30 ต.ค.66 ) ขณะที่ตนกำลังนั่งอยู่ในสวนของแม่ ประชุมร่วมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ผ่านระบบซูม โดยมีท่านอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน แล้วมีสารวัตรกำนันชายคนหนึ่งมานั่งประชุมด้วยเพราะใช้ระบบซูมไม่เป็น ตนเองจึงเข้าไปสอนการใช้ระบบซูม และแม่ของตนก็อยู่แถวนั้นด้วย จู่ๆ สามีเดินผ่านมาเห็นเกิดอาการหึงหวงปรี่เข้ามาเตะสารวัตรกำนัน แม่ของตนซึ่งอายุ 72 ปี เห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาช่วยห้าม สามีกลับตรงเข้าล็อกคอแม่และคว้ามีดจะจ้วงแทง ตนจึงรีบเข้าไปช่วยพร้อมกับร้องขอชีวิตกับสามีว่า "อย่าทำแม่!" สามีจึงหยุด ตนจึงรีบพาแม่หนีไปอยู่บ้านน้องชายที่อยู่ห่างไปประมาณ 1 กม. 

โดยทางผู้ใหญ่บ้านหญิง เล่าว่า  ตนอยู่กินกับสามีซึ่งเป็นสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) มา 20 กว่าปี โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกสาวคนโตอายุ 24 ปี ลูกชายคนเล็กอายุ 14 ปี ในระหว่างที่อยู่กินด้วยกันสามีมีเรื่องผู้หญิงมาตลอดจนทำให้มีปากเสียงกันบ่อยครั้ง และตนเคยถูกสามีทำร้ายจนไส้ติ่งแตก ซึ่งตนก็ไม่กล้าแจ้งความและต้องทนถูกสามีทำร้ายมาโดยตลอด เพราะสามีข่มขู่ไว้ว่าถ้าแจ้งความจะทำให้ครอบครัวเดือดร้อนอยู่ไม่เป็นสุข  ที่ผ่านมาสามีทำกับตนก็พอทนได้ แต่ครั้งนี้สามีถึงกับจะใช้มีดแทงแม่ ตนก็สุดจะทนแล้ว ต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ฐานพยายามฆ่าแม่ และทำร้ายร่างกาย และต้องการแยกทางกับสามี ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป แต่เนื่องจากสามีรู้จักผู้กว้างขวางหลายคนตนกับแม่จึงเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย" ซึ่งตนได้ถูกทำร้ายร่างกายมาตลอด และมีการขู่ว่าจะไปยิงแม่ ซึ่งตนรัยไม่ได้ที่เขามาทำร้ายแม่ และมีการข่มขู่ตลอดทำให้ตนเดือดร้อน ตนโดนทำร้ายโดยต่อยหน้าตบหน้า ตอนนี้ทำให้ทนไม่ไหวแล้วและรู้สึกกลัว และอยากเลิกเพราะสฃสารลูกและกลัวลูกโดยทำร้ายและเป็นห่วงจิตใจของลูก วันเหิดเหตุที่สารวัตรกำนันอยู่ด้วยแต่ห้ามไม่ทัน ซึ่งสาเหตุที่สามีหึงหวงเพราะตนไปจับได้ว่าสามีมีชู้ ทำให้ตนโดนทำร้ายร่างกายตลอด และข่มขู่ไม่ให้ตนเลิก ตนพยายามจะหาทางเลิกกับสามีแล้วแต่โดยทำร้ายตลอด ซึ่งทางสามีได้มีอาวุธปืนอละพกปืนตลอดเวลา ซึ่งที่เขาหึงสารวัตรกำนันตนไม่อยากให้เขาเข้ามาข้องเกี่ยว ทุกครั้งที่โดนมำร้ายร่างกายตนจะถูกต่อยและโดนไม้ฟาด ทุกครั้งที่โดยทำร้ายจะมีเลือดออกทุกครั้ง มีครั้งที่หนักสุดคือโดนเตะจนไส้ติ่งแตก ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปแจ้งความไว้แล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัว ตอนนี้ตนนอนไม่หลับและระแวงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกับสามีแล้ว ซึ่งคนในหมู่บ้านจะรู่กันหมดว่าตนโดนทำร้ายมาตลอดแต่ก็ไม่มีใครยุ่ง ซึ่งตนได้แจ้งทางเทศบาบไปแล้วแต่ก็บอกว่าเป็นเรื่องของครอบครัว 

ซึ่งทางด้านแม่ของผู้ใหญ่บ้านกล่าวว่า ตนเข้าไปห้ามตอนเกิดเหตุ แต่กลับจะถูกแทง วันนี้จึงขอให้สท.คนนี้ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับทางครอบครัวเพราะเป็นห่วงหลานและเด็กๆในบ้าน ศึ่งตนไม่เคยถูกทำร้ายมาก่อนหน้านี้แต่พึ่งมาโดนล๊อคคอเมื่อวาน ตอนนี้ตนรู้สึกหวาดกลัว 

ทางด้านปวีณา กล่าวว่า มาร้องเรียนกับตนว่าถูกทำร้ายร่างกายโดยเมื่อวานนี้ที่มีการนั่งประชุมกันดังลกล่าวจู่ๆสามีได้เข้ามาทำร้ายคนที่มาร่วมประชุมด้วยและคุณแม่ของผู้เสียหาย โดยเอามีดมาแทง ซึ่งทางผู้เสียหายอยู่กินกับ สท.มานานกว่า 20 ปี ทางด้านสามีได้ไม่พอใจและเข้ามาทำร้ายร่างกาย แต่แม่ของผู้เสียหายเข้ามาช่วยแต่ก็โดนล๊อคคอ จึงพากันกลับบ้าน แต่ถูกข่มขู่ว่าจะยิง ตนจึงพาผู้เสียหายและแม่เข้ามาแจ้งความทำร้ายร่างกายและข่มขู่ ตอนนี้ผู้เสียหายกลัวมากเพราะสามีเป็นนักการเมืองท้องถิ่น ตนจึงประสานทางด้านพมจ.ด้วยเพราะมีเรื่องของความรุนแรง ทางมูลนิธิได้รับเรื่องร้องทุกข์มานานแล้ว ปัญหาของการทำร้ายร่างกายคืออันดับ 1 เป็นเรื่องที่ร้ายแรงสำหรับครอบครัว ซึ่งันนี้การที่มานั่งคุยกัน คุณแม่ของผู้เสียหายยังไม่ทราบว่าลูกถูกทำร้ายร่างกายมานานกว่า 20 ปี เพราะโดนข่มขู่ไว้ว่าจะทำร้ายครอบครัว นี่คือสิ่งที่ตัวผู้เสียหายได้รับความกดดัน ซึ่งทางผู้เสียหายเข้าไปร้องทุกข์มาหลายหน่วยงานแล้วแต่ก็ไม่เคยได้รับความเป็นธรรม ตนจะส่งเรื่องไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดูแลพยานและให้ทางเจ้าหน้าที่ประสานงาน จะไม่ให้ผู้กระทำความผิดเข้ามาอยู่ใกล้กับผู้เสียหาย ตอนนี้ทางผู้เสียหายและแม่จะอยู่ในความคุ้มครองของมูลนิธิปวีณา 

เบื้องต้นทางพล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องร้องทุกข์ไว้เรียบร้อยแล้ว และจะดำเนินการทำตามขั้นตอนตามกฏหมายถ้ากระทำความผิดจริงจะออกหมายเรียกตามกฏหมายต่อไป เท่าที่ฟังและดูหลักฐานทั้งหมดยังตรวจสอบไม่เรียบร้อย แต่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจะดูพฤติกรรมการแทง ว่าถึงขั้นพยายามฆ่าหรือไม่ หรือเป็นการข่มขู่อย่างเดียส และจะต้องสอบปากคำ ตนจึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรยจของพื้นที่ของ สภ.บางบัวทองให้เข้ามารัยแจ้งความในวันนี้ด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกตรวจและมีเบอร์โทรประสานกันกับผู้เสียหายตลอดเวลา และจะต้องตรวจสอบเรื่องของอาวุธปืนด้วย 

ภาพ/ข่าว กำพลศิลป์ วงษ์เดือน
ผู้สื่อข่าวนนทบุรี