เต้ ” มงคลกิตติ์” บุก รพ.ตร. นำส้มตำไก่ย่าง ร้าน “สิระ” ขอเยี่ยม “ทักษิณ”

กรุงเทพมหานคร-นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต สส. และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องขังคดีทุจริต ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยได้นำส้มตำไก่ย่างจากร้านของนายสิระ เจนจาคะ อดีตสส. พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 20 ปี และผันตัวไปเปิดร้านไก่ย่าง มาเยี่ยมไข้นายทักษิณด้วย

โดยนายมงคลกิตติ์ ระบุว่า แม้ว่าวันนี้จะไม่ได้ลงทะเบียนเยี่ยมนายทักษิณ แต่ตนเองทราบมาว่าบุคคลภายนอกสามารถเข้าเยี่ยมได้ หากตัวผู้ต้องขังอนุญาต ซึ่งตนเองก็จะใช้สิทธิ์ตรงนี้ ส่วนคาดหวังว่าจะได้เข้าเยี่ยมหรือไม่นั้น ให้เป็นดุลพินิจของนายทักษิณ

โดยเมนูที่นำมาเยี่ยมนายทักษิณวันนี้ คือ ไก่ย่างปิ้งเอง 1 ตัว , ส้มตำไทยปู พริก 6 เม็ด , ข้าวเหนียว 4 ห่อ , ปลาขาวกรอบ 5 ห่อไว้รับประทานกับข้าวสวยและพริกน้ำปลา โดยยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถนำอาหารเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ หากไม่ได้ ก็ให้เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่าจะนำอาหารทั้งหมดไปให้บุคคลใดแทนหรือไม่ แต่ตนเองถือว่าได้แสดงน้ำใจแล้ว

นอกจากนี้ยังมีการนำผลไม้เป็นสตอเบอรี่กับลำไยเอามาให้ด้วย โดยผลไม้ทั้งสองเป็นการสนับสนุนนโยบายรัฐบาลต่างๆไม่ใช่เป็นการเลือกมาจากระยะอะไรทั้งสิ้น

ทั้งนี้การเดินทางมาที่โรงพยาบาลตำรวจวันนี้ ตนเองยังคาดหวังจะได้พบนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสอบถามอาการป่วยของนายทักษิณ หลังเข้ารับการรักษาตัวมานานกว่า 70 วันด้วย

ส่วนที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่านายสิระ รวมถึงนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส. พรรคพลังประชารัฐ จะมาเยี่ยมนายทักษิณพร้อมๆ กับนายมงคลกิตติ์ด้วยนั้น แต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสิระ ติดธุระด่วน ส่วนนางสาวปารีณา มีอาการป่วย ตัวรุมๆ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า ทั้งสองมีผู้ใหญ่ติดต่อมาเจรจา ไม่ให้มาตนเองไม่ทราบ คงต้องไปสอบถามทั้งสองเอง

แต่ทั้งสอง ก็ฝากความคิดถึง มาให้ตนเองเป็นตัวแทนในการเข้าเยี่ยมเพื่อติดตามอาการเจ็บป่วยของตัวนายทักษิณ เพราะที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลไม่เคยมีการแถลงข่าวอัพเดทอาการใดๆ ผิดจากเราบุคคลที่มีชื่อเสียงที่ผ่านมาที่ปรากฏว่าจะมีการแถลงข่าวในทุกอาทิตย์

ขณะที่บรรยากาศโรงพยาบาลตำรวจ ก็มีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย รวมถึงจัดพื้นที่ให้สื่อมวลชนในการทำข่าว เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิของผู้ป่วยรายอื่น

ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นทางการเมืองถึงกรณี สส. พรรคก้าวไกล ที่โดนประเด็นคุกคามทางเพศ ว่าถึงขนาดนี้เชื่อว่าจะเป็นความผิดตามมารยาทของการเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เท่านั้น ส่วนจะมีการเมืองภายในหรือไม่ตนเองไม่ขอออกความคิดเห็นต้องรอดูว่าบุคคลที่มีการเปิดเผยเรื่องดังกล่าวจะมีการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรเองหรือไม่

ขณะที่ตนเองยังอยากให้ประชาชนคอยเฝ้าติดตามวันที่ 15 ว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบพรรคในรูปแบบใด และเชื่อว่าการยุบพรรคในครั้งนี้จะทำให้เกิดพรรคใหม่สองถึงสามพรรคเกิดเกิดขึ้น เพราะแนวคิดของผู้ก่อตั้งเดิมเชื่อว่าไม่สามารถไปได้ในปัจจุบันแล้ว

ขณะที่ในส่วนของตัวนายกรัฐมนตรีเชื่อว่าไม่เกินต้นปีหน้าอาจจะมีการเปลี่ยนตัวนายก เพราะนโยบายของนายเศรษฐาไม่สามารถทำได้จริงเรื่องของเงินดิจิตอล Wallet ที่ไม่สามารถนำเงินมาจัดสรรในงบประมาณดังกล่าวได้ และให้คอยดูว่าอาจจะเป็นการกลับมาของลุงตู่อีกครั้งจึงอยากให้ประชาชนทุกคนจับตามองการเมืองต่อไปในปีหน้า

โดยในเวลาต่อมามีเจ้าที่จากกรมราชทัณฑ์ เดินทางลงมาเพื่อแจ้งข้อมูลกับนายมงคลกิตติ์ โดยยืนยันว่าไม่สามารถอนุญาตให้มีการเข้าเยี่ยมได้เพราะไม่อยู่ในรายชื่อที่มีการยื่นขอเอาไว้กับทางกรมราชทัณฑ์ รวมถึงอาหารที่นำมาในวันนี้ก็ไม่สามารถรับเอาไว้ได้เช่นกันเนื่องจากไม่ใช่เป็นบุคคลในครอบครัวและไม่ใช่บุคคลในรายชื่อที่ตัวนักโทษอนุญาตให้เข้าเยี่ยม