ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบอดีตแฟนสาวแก๊งโรแมนซ์สแกม
1 min readกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ รอง ผกก.4 บก.ป.,
พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ รอง ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.เอนก บุญตา รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.กิตติพงศ์ ศิลาพันธุ์ สว.กก.4 บก.ป., ร.ต.อ.นราวิชญ์ เปี้ยสุ
รอง สว.กก.4 บก.ป., ร.ต.ต.ศรศักดิ์ แก้วแกลบ รอง สว.(ป.)กก.4 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.๔ บก.ป.
ร่วมกันจับกุม น.ส.จุฑาลักษณ์ฯ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ที่ จ.2/2564 ลงวันที่ 12 มกราคม พ.ศ.2564 ข้อหา “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”, ศาลอาญาที่ จ.3350/2566 ลงวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ.2566 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” และศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.693/2564 ลงวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.2564 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น”สถานที่จับกุม บริเวณหน้าร้านอาหารในพื้นที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ น.ส.จุฑาลักษณ์ฯ ได้เดินทางไปทำงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศมาเลเซียและได้พบรักกับหนุ่มผิวสีชาวไนจีเรียผ่านการแนะนำของเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน
จากนั้นแฟนหนุ่มชาวไนจีเรียได้รับผู้ต้องหามาอยู่ด้วยกันและได้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายทุกอย่าง โดยที่ผู้ต้องหา ไม่ต้องทำงาน ซึ่งระหว่างอยู่ด้วยกัน ผู้ต้องหาก็ทราบว่า แฟนหนุ่มทำงานเกี่ยวกับการหลอกผู้หญิงให้หลงรักแล้วหลอกให้โอนเงิน แต่ด้วยความรักผู้ต้องหาจึงไม่ได้คิดอะไร
หลังจากอยู่ด้วยกันเกือบ 2 ปี แฟนหนุ่มก็ได้เดินทางกลับประเทศไปและไม่ได้เดินทางกลับมาอีก ผู้ต้องหาจึงเดินทางกลับมาอยู่ประเทศไทย แต่เนื่องจากหางานทำลำบากรายได้ไม่พอใช้ เพื่อนสาวคนไทยที่เคยแนะนำให้ผู้ต้องหารู้จักกับแฟนหนุ่มชาวไนจีเรีย ก็ติดต่อมาหาและยืนข้อเสนอให้ผู้ต้องหาเปิดบัญชีม้าให้ โดยจะได้รับค่าตอบแทนในการเปิดบัญชี บัญชีละ 10,000 บาท และค่ากดเงินสด ครั้งละ 1% ของยอดเงินสดที่กดออกมา โดยจะให้กดเงินสดออกมา แล้วฝากเข้าบัญชีอื่น ตามที่เพื่อนสาวฯแจ้งมา
ซึ่งผู้ต้องหาเปิดบัญชีให้ประมาณ 5-6 บัญชี และเคยกดเงินสดออกมาแล้วฝากเข้าบัญชีอื่น
รวมเป็นเงินหลายล้านบาท ผู้ต้องหาได้ทำงานดังกล่าวอยู่ประมาณ 1 ปีเศษ บัญชีก็เริ่มถูกอายัดและเริ่มถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวและไม่สามารถติดต่อเพื่อนสาวฯได้อีก ผู้ต้องหาจึงเริ่มหลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาจนทราบว่า ได้หลบหนีมาอาศัยอยู่ที่บริเวณร้านอาหารในพื้นที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบผู้ต้องหาอยู่บริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับให้ผู้ต้องหา ทราบ ผู้ต้องหาจึงยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมตัวผู้ต้องหา และนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา