สายไหมต้องรอด พา “ดีเจเพลย์บอย” เข้าแจ้งความตำรวจ หลังถูกเจ้าของเว็บพนัน รุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส
1 min readสายไหมต้องรอด พา “ดีเจเพลย์บอย” เข้าแจ้งความตำรวจ หลังถูกเจ้าของเว็บพนันลวงไปเปิดเพลงที่ปอยเปต สบโอกาสรุมทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เกือบเอาชีวิตไม่รอด ทำให้ผู้เสียหายกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย / ด้าน เอกภพ ฝากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เร่งตรวจสอบพฤติกรรมเหิมเกริมเปิดเว็บพนันและยังทำร้ายผู้อื่น ต้องดำเนินคดีและยึดทรัพย์หากทำเว็บพนันจริง
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พานายธนัฐ โอนอ่อน หรือ “ดีเจเพลย์บอย” ดีเจชื่อดังตามสถานบันเทิง ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการเดินทางไปทำงานเปิดเพลงที่ปอยเปต
โดยดีเจเพลย์บอย ผู้เสียหาย เล่าว่าวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้รับการว่าจ้าง 15,000 บาท ให้ไปเปิดเพลงที่ปอยเปต จึงเดินทางไปกับพ่อบุญธรรม จากนั้นเวลาประมาณ 01.00-02.00 น. ได้ไปเปิดเพลงที่ห้องวีไอพีของโรงแรม โดยมีลูกค้า 7 คน แบ่งเป็นหญิง 3 คน และชาย 4 คน พอเปิดเพลงได้สักพัก พ่อบุญธรรมได้ขอตัวกลับไปพักผ่อนและออกจากห้องไป ปรากฏว่า “เสี่ยชัช” กับลูกน้องที่ชื่อ” ตี๋” เข้ามารุมทำร้าย ทั้งเตะต่อย จนต้องยกมือไหว้ขอชีวิต หลังทำร้ายเสร็จ ลูกน้องเสี่ยชัชพาไปล้างเลือดที่ห้องน้ำ และล็อกคอกลับมาที่ห้องบังคับให้เปิดเพลงและทำร้ายซ้ำอีก จน รปภ. ของโรงแรมพังประตูเข้ามาช่วยชีวิตไว้
โดยหลังจากเอาชีวิตรอดมาได้ ตนเองมีแผลฟกช้ำตามร่างกาย จมูกหัก ศีรษะแตก ตาห้อเลือด แก้มบวมช้ำ หูและสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ทำให้การได้ยินลดลง 50 เปอร์เซ็นต์
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ก่อเหตุรุมทำร้าย ร่างกาย ดีเจเพลย์บอย บอกว่า ตัวเสี่ยชัชหาว่าตนเองไปหอมแก้มแฟนของเสี่ยชัช ซึ่งตนเองยืนยันได้ว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากภรรยาของตนเองก็เดินทางไปด้วย และก็มีพยานเห็นเหตุการณ์หลายคน ที่ยินดีจะให้ข้อมูลกับตำรวจว่าตนถูกทำร้ายทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไร
โดยวันนี้ตนเองได้เดินทางไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและขอใบรับรองแพทย์ เพื่อนำมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ที่ สน.ห้วยขวาง เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ตนพักอาศัยอยู่ ซึ่งตนเองมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นอย่างมาก
ด้านนายเอกภพ กล่าวว่า ตัวของผู้เสียหายค่อนข้างกังวลเรื่องความปลอดภัยเป็นลำดับแรก เมื่อวานนี้(7 พ.ย.66) ตนจึงพาไปยื่นคำร้องขอคุ้มครองพยานที่กระทรวงยุติธรรม และพาเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ห้วยขวาง ในวันนี้ ซึ่งทางผู้กำกับฯ สน.ห้วยขวาง ก็น่าจะเริ่มได้ข้อมูลมาบ้างแล้วว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร
นายเอกภพ ยังระบุด้วยว่า พฤติกรรมการก่อเหตุของเจ้าของเว็บพนัน เชื่อว่าน่าจะเป็นการกล่าวอ้างว่าผู้เสียหายไปหอมแก้มแฟนสาว หรือ อาจจะมองว่า ผู้เสียหายมีชื่อเสียง หน้าตาดี จึงเกิดความไม่ชอบหน้าจึงลวงไปทำร้าย ด้วยความเหิมเกริมคิดว่าตัวเองมีเงินจะทำอะไรก็ได้
ตนมองว่าเรื่องนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เอาไว้ไม่ได้ เนื่องจากตัวผู้เสียหายบอกว่า ผู้ที่ทำร้ายที่ชื่อเสี่ยชัช เป็นคนไทยซึ่งเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่อยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา น่าจะมีเงินหมุนเวียนหลักพันหลักหมื่นล้าน ถ้าเป็นเรื่องจริงต้องยึดทรัพย์ แม้จะมีที่ตั้งเว็บไซต์ที่กัมพูชา แต่มีการยิงแอดโฆษณามาที่ประเทศไทย ทำให้คนไทยถูกล่อลวงให้ไปเล่น โดยความผิดฐานเปิดเว็บพนันออนไลน์เป็นความผิดมูลฐานการฟอกเงิน มีโทษคือการยึดทรัพย์ และยังเหิมเกริมทำร้ายผู้อื่นจะต้องนำตัวมาดำเนินคดีให้ได้
ต่อมา หลังจากพันตำรวจเอกสุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เข้าไปร่วมสอบปากคำเพิ่มเติม ดีเจ Playboy ได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหาย และพยานในที่เกิดเหตุ ซึ่งเบื้องต้นทราบข้อมูลของผู้ก่อเหตุแล้ว คาดว่าจะติดตามตัวได้ไม่ยาก
โดยเมื่อพนักงานสอบสวนสอบปากเสร็จสิ้น ต้องขออนุมัติจากสำนักงานอัยการสูงสุด เนื่องจากเป็นเหตุที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งต้องรอให้ทางอัยการสูงสุดสั่งให้คดีนี้เป็นความรับผิดชอบของ สน.ห้วยขวาง ดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อ จึงจะสามารถออกหมายจับได้และ คาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานในการดำเนินการ และออกหมายจับผู้ก่อเหตุได้ ในส่วนกรณีการเปิดเว็บพนันนั้น จะต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริง และขยายผลต่อไปหลังจากนี้