“บิ๊กโจ๊ก” ประชุมติดตามความคืบหน้า ปมรถบรรทุกตกบ่อ เผยจะทำให้เป็นกรณีตัวอย่าง ลั่นเริ่มแก้ปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินวันนี้

จากกรณีรถบรรทุก 10 ล้อ ตกบ่อพักสายใต้ดิน ในโครงการก่อสร้างนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินของการไฟฟ้านครหลวง ที่บริเวณซอยสุขุมวิท 64/1 ก่อนที่ต่อมาพบว่าเรื่องของส่วนสติกเกอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.44 น. ทาง สน.พระโขนง ได้มีการขอความร่วมมือชาวบ้านในพื้นที่ในการนำผ้าใบมาคลุมบริเวณท้ายรถบรรทุกคันเกิดเหตุ

ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ที่ สน.พระโขนง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่ สน.พระโขนง เพื่อติดตามความคืบหน้าเหตุรถบรรทุก และส่วยสติกเกอร์

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ตนเองจะมุ่งประเด็นไปเรื่องของรถบรรทุกน้ำหนักเกินที่วิ่งอยู่ในกรุงเทพฯ ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน รวมถึงเหตุเมื่อวานนี้ที่ทำให้การจราจรติดหนัก 6-7 ชั่วโมง โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนเองได้ต่อสายไปยังผู้ว่าฯ ชัชชาติ ตนเองจึงต้องมาดู และหากพบว่าใครกระทำความผิดก็ดำเนินคดีต่อไป

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้ในกรุงเทพจะต้องมีการซีนใหม่ทั้งหมด รถบรรทุกน้ำหนักเกินที่จะวิ่งเข้ากรุงเทพฯ จะต้องชั่งน้ำหนักทั้งหมด หรื รถตามไซต์ต่างๆในกรุงเทพฯ ที่มีการขนดิน จะต้องมีน้ำหนักไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้โรงพักนครบาลไม่เหมือนกับต่างจังหวัด เพราะไม่มีตราชั่ง วันนี้จึงต้องมีการประสานกับกรมทางหลวงในเรื่องของตราชั่ง โดยจะเริ่มซีนในพื้นที่กรุงเทพมหานครก่อน เพราะปัญหาการจราจรติดขัด ซึ่งตนเองก็เป็นผู้รับผิดชอบ มีสาเหตุหลัก ๆ ก็คือหนึ่งรถบรรทุกน้ำหนักเกิน สองคือรถวิ่งในเวลาห้ามวิ่ง แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่วันนี้จะต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นวันนี้จะมีการประชุม เพื่อตรวจสอบในกรณีดังกล่าว ในวันนี้ตนเองมาเพื่อตรวจสอบสำนวนการสอบ แล้วจะทำให้เป็นกรณีตัวอย่างสำหรับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน และจะต้องมาไล่เรียงว่าจะดำเนินคดีกับผู้ขับขี่ หากน้ำหนักเกิน ศาลจะต้องยึดรถ รถก็ไม่สามารถใช้ในการประกอบอาชีพได้ และจะต้องไล่ดูไปถึงตัวเจ้าของ ว่าเป็นใครรู้เห็นเป็นใจหรือไม่ หากเจ้าของรู้เห็นเป็นใจจะต้องดำเนินคดีกับเจ้าของอีกส่วนหนึ่ง นี่คือมาตรการทางคดีหลังเกิดเหตุ

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้จะต้องมีการทบทวนว่าหลังจากนี้ไปจะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก จะต้องมีการบูรณาการ โดยจะต้องประสานทางกรมทางหลวงในการนำตราชั่งมาช่วย ในทุกจุดต่อจากนี้ในทุกๆ สน. โดย สน. แต่ละที่จะต้องรู้ว่าในพื้นที่ไหนบ้างที่มีไซต์งาน เรื่องนี้จะต้องดำเนินการร่วมกับผู้กำกับ จราจร จะต้องมีการออกแผนร่วมกัน และจะเริ่มเลยในวันนี้ ไม่เพียงเฉพาะแค่เขตพระโขนงเท่านั้น

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตลอดสองสามเดือนที่ผ่านมา ไม่มีรายงานการจับปรับรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ในส่วนนี้ตนเองพึ่งมารับผิดชอบงานจราจรและจากการดูสถิตินั้น ยังไม่มีการจับปรับเลย เท่าที่ตนเองทราบมีเฉพาะการจับกุมในเรื่องของของกระเด็นตกหล่น เพราะฉะนั้นจากวันนี้เป็นต้นไปไม่เอาแล้ว จะต้องมีการควบคุมรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนเช่นนี้ไม่ได้

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า กรณีรถคันเกิดเหตุ เป็นรถ 10 ล้อน่าจะมีประมาณสามเพลา น้ำหนักจะต้องไม่เกิน 25 ตัน จากการตรวจสอบพบว่าน้ำหนักเกิน และดำเนินคดีแน่นอน ส่วนกรณีที่มีผู้ประกอบการตักดินออกไป นั้น จะต้องมีการตรวจสอบว่าเป็นการปล่อยประละเลยให้ทำลายหลักฐานหรือไม่นั้น ตนเองจะมาไล่เรียงดูในวันนี้ ซึ่งหากรู้อยู่แล้วว่าน้ำหนักเกิน และมาตักดินออกไปถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ส่วนเจ้าหน้าที่ที่มีการเปิดไซต์งานให้นำดินไปเทนั้นจะมีความผิดหรือไม่ ตนเองกำลังจะมาดูรายละเอียดในส่วนนี้ต่อไป ส่วนเส้นทางของรถบรรทุก จะนำดินไปทิ้งนั้น ต้องผ่านกี่สน. มีสน. ไหนบ้างที่เกี่ยวข้องตนเองมีข้อมูลแล้วพบว่ามีสองถึงสาม สน. ที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องส่วยเฉพาะกิจ วันนี้ตนเองจะมาดูว่าสวยสติกเกอร์มีหรือไม่ เนื่องจากเป็นประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตมานาน และกรณีที่สติกเกอร์เป็นรูปดาวมีตัวอักษรทั้งภาษาอังกฤษตัวบีนั้นมีการเชื่อมโยงไปถึงเสี่ยบิ๊ก ตนเองยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ตนเองยังไม่ได้รับข้อมูลขอคุยกับผู้กำกับก่อน

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนหลังจากนี้จะมีการห้ามรถบรรทุกวิ่งในเส้นถนนสุขุมวิทเลยหรือไม่นั้น ในส่วนที่ห้ามวิ่งก็ห้ามวิ่งส่วนไหนวิ่งได้ก็สามารถวิ่งได้ ต้องวิ่งโดยถูกกฎหมายและน้ำหนักไม่เกิน และหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป