จันทร์. พ.ย. 25th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

ตำรวจไซเบอร์ แถลงผลปฏิบัติการ operation inbox scam พิทักษ์รากแก้วทลายทรชน กวาดล้างเครือข่ายหลอกลวงขายสินค้าทิพย์

1 min read

พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ แถลงผลปฏิบัติการ operation inbox scam พิทักษ์รากแก้วทลายทรชน กวาดล้างเครือข่ายหลอกลวงขายสินค้าทิพย์สร้างความเสียหายแก่ประชาชน 2 เครือข่าย

โดยเครือข่ายแรกเป็นเครือข่ายหลอกขายนมผงทิพย์ โดยคนร้ายจะสร้างเพจขึ้นมาโดยใช้ชื่อเพจว่า เอนฟา (ภาษาไทย) Enfa smart club” ซึ่งตั้งใจตั้งชื่อให้คล้ายกับเพจจริง ซึ่งผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยัง copy ภาพจากเพจมาทั้งหมดจนเหมือนกันเกือบ 100% จากนั้นจะเสนอขายนมผงยี่ห้อดังและมีลิงค์ให้กดเข้าไปดูสินค้าต่างๆพร้อมราคา และจะหลอกขายสินค้าประเภทต่างๆ นอกจากนี้ยังแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มซื้อขายสินค้าของใช้เด็กแรกเกิดทารกราคาถูก และโพสต์ขายสินค้าในราคาถูกกว่าท้องตลาดจนมีผู้เสียหายหลงเชื่อจำนวนมาก แต่เมื่อผู้เสียหายโอนเงินค่าสินค้าให้พร้อมกับหลักฐานการโอนเงินคนร้ายก็จะปิดกั้นช่องทางการติดต่อดวงไม่ส่งสินค้าให้กลายเป็นสั่งของทิพย์

ผู้เสียหายส่วนใหญ่พบว่าเป็นกลุ่มแม่ลูกอ่อนที่ต้องการซื้อนมผงและของเกี่ยวกับเด็กอ่อนในราคาถูกกว่าท้องตลาดซึ่งมูลค่าความเสียหายของแต่ละรายไม่มาก แต่สร้างความเดือดร้อนให้กับครอบครัวต่างๆที่ต้องการหานมผงให้กับแม่และเด็ก

ทั้งนี้จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพบว่า มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความออนไลน์มากถึง 1,249 เรื่องมีความเชื่อมโยงไปถึงผู้เสียหายทั่วประเทศมูลค่าความเสียหายกว่า 7 ล้านบาท แต่พบเงินหมุนเวียนในเครือข่ายนี้รวมมากกว่า 70 ล้านบาท โดยมีการกระทำความผิดฉ้อโกงในรูปแบบอื่นๆด้วย อาทิ หลอกขายที่นอนยางพารา iPad และ notebook ทั้งยังพบความเชื่อมโยงกับแก๊ง call center ในประเทศเพื่อนบ้าน ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพบผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระทำความผิด 26 รายจึงขอศาลออกหมายจับจนสามารถไปจับกุมผู้ต้องหาได้ 12 คน โดยเป็นกลุ่มบัญชีม้าและคนกดเงิน เป็นทั้งคนไทยและชาวประเทศเมียนมา ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวและขอหมายจับเพิ่มเติม

หนึ่งในผู้เสียหายเปิดเผยว่า เข้าไปเจอเพจดังกล่าวจากในโลกออนไลน์ซึ่งมีการทำเพจที่เหมือนของจริงมาก จึงหลงเชื่อและสั่งซื้อของกับเพจดังกล่าวก่อนจะโอนเงินไปให้ ซึ่งคนร้ายยังเพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยการให้เลขพัสดุ ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้ากับเพจดังกล่าวเนื่องจากราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดเป็นหลักพันบาท แต่เริ่มเอะใจว่าถูกหลอกเนื่องจากคนร้ายติดต่อเพิ่มโปรโมชั่นในการซื้อสินค้าเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ โดยอ้างว่าหากซื้อเพิ่มจะได้ราคาที่ถูกลงและมีสิทธิ์ชิงรางวัลเป็นทองคำเพิ่มอีก จึงตัดสินใจนำชื่อและบัญชีไปตรวจสอบในโลกออนไลน์จึงพบว่ามีประวัติการหลอกลวงเป็นจำนวนมาก เมื่อติดต่อกลับไปก็พบว่าถูกตัดการติดต่อ จึงเข้าแจ้งความออนไลน์กับตำรวจ ทั้งนี้จากการรวมตัวกลุ่มผู้เสียหายพบว่าในช่วงวันและเวลาใกล้เคียงกันมีผู้เสียหายถูกหลอกรวมกันแล้วมากกว่า 30 คน มูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนร้ายได้ และสาเหตุที่ตัดสินใจแจ้งความเพราะไม่อยากให้คนอื่นตกเป็นเหยื่ออีกแม้ความเสียหายของตนเองจะไม่มาก (2000กว่าบาท)

…………..
ส่วนอีกเครือข่ายคือแก๊งรถไถทิพย์ออนไลน์ โดยกลุ่มนี้จะมีการหลอกลวงในรูปแบบที่ค่อนข้างซับซ้อนเลือกกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเกษตรกรชาวไร่ชาวนาที่ต้องการซื้อขายรถไถนามือสอง โดยจะแฝงตัวเข้าไปในกลุ่ม facebook ซื้อขายรถไถนามือสอง

ขั้นแรกจะเข้าไปสังเกตการณ์ตามกลุ่มและสร้างเพจ facebook แสดงตนเป็นนายหน้าขายรถไถ ติดต่อไปยังผู้ที่ต้องการขายรถไถ อ้างตัวว่าต้องการรับซื้อรถโดยให้ราคาสูง พร้อมกับให้ส่งภาพนิ่งวีดีโอและรายละเอียดต่างๆของตัวรถมาให้

จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดได้ ไปโพสต์ขายอีกต่อหนึ่งโดยอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของรถ โดนจับขายให้ในราคาถูกกว่าท้องตลาด 50% โดยราคาจะอยู่ที่ 250,000 บาทถึง 300,000 บาท

เมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อสนใจติดต่อขอซื้อ ก็จะแจ้งไปยังเจ้าของรถตัวจริงที่ติดต่อขอซื้อไว้ตอนแรก ว่าตนจะซื้อและว่าจ้างรถสไลด์ไปรับรถไถที่บ้าน โดยในขั้นตอนนี้ผู้ต้องหาอาจวางเงินมัดจำกับเจ้าของรถตัวจริง หรือใจปล้ำยอมวางเงินมัดจำว่าจ้างรถสไลด์ให้

จากนั้นเมื่อรับรถออกมาแล้วก็จะนำรถไถไปส่งให้กับผู้ซื้อตามที่นัดหมายกันไว้ เมื่อรถไถไปถึงที่หน้าบ้านผู้ต้องหาจากเร่งเร้าให้ผู้ซื้อรีบโอนเงินให้ และเมื่อโอนเงินมาให้เรียบร้อยแล้วก็จะทำการตัดการติดต่อและส่งเงินจำนวนดังกล่าวต่อให้บัญชีม้าจำนวน 6 ทอด ส่วนเจ้าของตัวจริงก็จะไม่ได้เงิน และติดต่อให้รถสไลด์นำรถไถกลับมาส่งคืน

ทั้งนี้ผู้ต้องหารายดังกล่าวได้เริ่มก่อเหตุมาหลายปีแล้ว โดยพบว่ามีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการในเครือข่ายนี้จำนวนประมาณ 10 คนมีการแจ้งความไว้ใน 5 พื้นที่สถานีตำรวจทั่วประเทศและมีการแจ้งความออนไลน์ไว้รวม 53 คดีมูลค่าความเสียหายรวมมากกว่า 3 ล้านบาท ตำรวจไซเบอร์จึงรวบรวมพยานหลักฐานลงพื้นที่สืบสวนจนทราบตัวของกลุ่มผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดจึงไปขอศาลออกหมายจับและเข้าจับกุมตัวหัวหน้าขบวนการซึ่งเป็นคนหลอกลวงคือนายกนกชัยอายุ 25 ปี และจับบัญชีม้าทั้ง 6 แถวรวมถึงคนรวมบัญชีม้า รวม 7 คน ส่วนอีก 3 คนเป็นคนกดเงินที่ชายแดนอำเภอแม่สาย ซึ่งกลุ่มคนร้ายไหวตัวทันไม่เดินทางมากดเงินและหลบหนี

จากการสอบปากคำนายกนกชัยให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวจริงโดยนำวิธีการมาจากการหลอกจำนำรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนเงินที่หลอกได้ก็จะนำไปซื้อทองคำเก็บไว้ บางส่วนก็จะนำไปซื้อของแบรนด์เนมใช้ชีวิตหรูหรา เที่ยวใช้เงินเปย์ผู้ชายซึ่งตรงกับพยานหลักฐานที่ตำรวจสามารถยึดได้พบแชทการพูดคุยกับชายหนุ่มหลายคนโดยมีการโอนเงินและมอบทรัพย์สินให้ ส่วนเงินบางส่วนก็จะนำไปใช้วิ่งเคลียร์ผู้เสียหายที่แจ้งความตามสถานีตำรวจต่างๆจึงทำให้รอดคดีมาได้หลายปี

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.