รองผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมรับฟังข้อมูลทุกหน่วยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
1 min readวันที่ 2 ธันวาคม 2566 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ออกตรวจราชการรับฟังข้อมูลและผลการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติประกอบด้วย บช.ก. บช.ปส. น. ภาค 1-9 กองบังคับการ และตำรวจภูธรจังหวัด โดยการลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังการปฏิบัติงาน มีการกำหนดแผน เวลา เพื่อให้การรับฟัง เก็บข้อมูลให้เสร็จสิ้นภายใน 2 เดือน คือเดือน พ.ย.-ธ.ค.2566 เพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาจัดทำคู่มือในการปฏิบัติงานที่มีมาตรฐานและได้รับการยอมรับจากข้าราชการตำรวจ เพื่อเสนอต่อ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ความเห็นชอบ ขณะนี้ได้มีการลงพื้นที่ไปรับฟังข้อมูลและผลการปฏิบัติงานจากหลายกองบัญชาการแล้ว โดยยังคงเหลือตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 อีกเพียง 2 แห่งเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นประมาณกลางเดือน ธ.ค.นี้
ทั้งนี้การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมรับฟังข้อมูลการปฏิบัติงานของแต่ละกองบัญชาการจะช่วยทำให้เห็นได้ว่าในการปฏิบัติภายใต้นโยบายเดียวกัน แผนปฏิบัติราชการเดียวกัน ยุทธศาสตร์ชาติเดียวกัน แต่ผลปรากฎว่ากองบัญชาการต่างๆ มีผลการปฏิบัติงานที่มีจุดโดดเด่นและเป็นต้นแบบที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์ ทบทวน ปรับปรุง เพื่อจัดทำเป็นคู่มือการปฏิบัติงาน (SOPs) ให้สอดคล้องกับนโยบาย สถานการณ์และหน้าที่ของตำรวจในยุคปัจจุบันได้ และสามารถนำมาปรับใช้เป็นมาตรฐานและแนวทางในการปฏิบัติงานกับทุกกองบัญชาการตำรวจทั่วประเทศต่อไปได้ในอนาคต
นอกจากนี้วัตถุประสงค์การลงพื้นที่ เพื่อนำนโยบาย แนวทางและข้อสั่งการในการปฏิบัติราชการแก่ทุกกองบัญชาการในประเด็นใหญ่ 3 ประเด็น ประกอบไปด้วย 1.นโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็น QUICK WIN ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่เน้นหนักในเรื่องของการบำบัดเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดที่มีการแพร่ระบาด, การดูแลตรวจสอบ การสุ่มตรวจและบังคับใช้กฎหมายต่อความผิดเกี่ยวกับงานตามกฎหมายสถานบริการ, การยกระดับการดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่แบบเชิงรุก ที่จะต้องดูแลตั้งแต่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ตำรวจพื้นที่ต้องรู้ว่านักท่องเที่ยวพำนักอาศัยที่ไหน และมีการบูรณาการกับตำรวจท่องเที่ยวและฝ่ายปกครองในพื้นที่
2.นโยบายของตร. ซึ่งเป็น QUICK WIN ของ ผบ.ตร. ประกอบไปด้วยนโยบายเร่งด่วน 4 ประการ คือ การแก้ไขปัญหายาเสพติด, การบริการ ดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์ของนักท่องเที่ยว, การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี, การส่งเสริม เสริมสร้างสวัสดิการให้แก่ข้าราชการตำรวจและครอบครัว 3.นโยบายและแนวทางปฏิบัติที่เกี่ยวกับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม นอกจากนโยบายหลักแล้ว เรื่องเน้นย้ำให้กับหน่วยงานในพื้นที่ คือ เรื่องการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดที่จะต้องวางแผนในลักษณะของโครงข่ายใยแมงมุมเมื่อเกิดเหตุ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามแผนเมื่อเผชิญเหตุ การรื้อแผนการตั้งจุดสกัดที่ทุกหน่วย ต้องกำหนดพื้นที่ใด พื้นที่หนึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบติดต่อกับพื้นที่ของภูธรจังหวัดใด สถานี ตำรวจใดต้องมีการกำหนดแผนตั้งจุดสกัดให้เชื่อมต่อกันเมื่อเกิดเหตุ ทำให้ลดภาระของงานสืบสวนที่สามารถจับกุมได้ในทันทีและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
เรื่องการทบทวนฝึกยุทธวิธีให้แก่ข้าราชการตำรวจที่จะต้องปฏิบัติงานตามหน้าที่เมื่อรับแจ้งเหตุที่จะไประงับเหตุคลุ้มคลั่งหรือเหตุใดเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หากเกิดอันตรายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปปฏิบัติหน้าที่และพบว่าผู้บังคับบัญชาไม่ใส่ใจในการฝึกทบทวนตามยุทธวิธี ผู้บังคับบัญชาจะต้องรับผิดชอบ, เรื่องการป้องกันและกำหนดมาตรการแผนเผชิญเหตุนักเรียนหรือนักศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท, การปราบปรามแหล่งอบายมุข บ่อนการพนัน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการมั่วสุม มอมเมา และก่อให้เกิดอาชญากรรมตามมา อย่างจริงจัง เด็ดขาด และห้ามมิให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปมีส่วนในการเรียกรับผลประโยชน์จากแหล่งอบายมุขเหล่านั้น หากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินการทางวินัยและอาญา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
เน้นสายตรวจ มิใช่ตรวจ เซ็นตู้แดงเพียงอย่างเดียว ต้อง Stop Walk & Talk กับประชาชน ตามบ้านเรือนต่างๆ และให้หัวหน้าสถานีทดสอบเจ้าหน้าที่สายตรวจเกี่ยวกับข้อมูลท้องถิ่นภายในเขตตรวจของตัวเอง ซึ่งต้องรู้ว่าในพื้นที่รับผิดชอบที่ตรวจตราอยู่นั้นมีข้อมูลท้องถิ่น มีบ้านเรือนและประชาชนผู้พักอาศัยอย่างไร ถ้าตอบไม่ได้ก็ต้องมีการปรับหน้าที่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่หัวหน้าสถานีควรจะต้องดำเนินการ เพื่อเป็นการสร้างมวลชนและภาคี เครือข่ายในพื้นที่เป็นแนวร่วมและแหล่งข้อมูลในการทำงานร่วมกันในด้านการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมต่อไป, เข็มตกเพียงเล่มเดียว ผกก. ต้องรู้ให้เร็ว อะไรที่เกี่ยวกับหน้าที่ และมีอำนาจตามกฎหมาย ต้องรีบดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุบานปลาย และเรื่องการกวาดล้าง ตรวจค้น อย่ารอทำเป็นช่วงๆหรือเทศกาล ให้ดำเนินการด้วยคำสั่งของ ผบช./ผบก. ในพื้นที่ต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ประชาชนในพื้นที่