หนุ่มใหญ่สายแคมป์ปิ้งจอดนอนชมบรรยากาศคันทรี่ เช้ามากลายเป็นศพ
1 min readชายวัย 57 ปี ชาวจังหวัดสุรินทร์ สายนอนแคมป์ปิ้งขับรถคู่ใจอุปกรณ์ครบ เปิดกระบะท้ายกางเต้นท์นอนบนรถ เช้ามามีคนพบกลายเป็นศพยังไม่ทราบสาเหตุ เพื่อนเผยเป็นคนชอบนอนแคมป์ปิ้งแบบฉายเดี่ยวไปเรื่อย ครั้งนี้มาขอจอดนอนข้างบ้านเพื่อชมบรรยากาศบ้านนอก รุ่งเช้าไม่เห็นตื่นจึงเข้าไปพบกลายเป็นศพ
วันที่ 2 ธ.ค.66 เมื่อเวลา 08.00 น.ร.ต.อ (หญิง) มริสา ศรีสุยงค์ รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองบุรีรัมย์ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนนอนเสียชีวิตภายในรถ ที่บ้านโคกขาม หมู่ 18 ต.บ้านยาง อ.เมือง จึงรุดไปตรวจสอบร่วมกับหน่วยกู้ชีพ อบต.บ้านยาง อ.เมือง
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะยี่ห้อฟอร์ด แบบแคป สีดำ ทะเบียน บร-1108 สุรินทร์ ติดหลังคาไฟเบอร์ มีเต้นท์กางคลุมตัวหลังคารถ ขึงมุมเต้นให้เป็นลักษณะแคมป์ หลังรถพบศพนายวรายุทธ จันทรวิจิตร อายุ57ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 ซอยราษฏร์วิทยา ต.ในเมือง อ.เมืองสุรินทร์ จ.สุรินทร์
ลักษณะสวมกางเกงขาสั้น ไม่ใส่เสื้อนอนหงาย ในมือกำโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลของการถูกทำร้ายแต่อย่างใดเบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาประมาณ 4-5 ชม.
จากการตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าว มีการดัดแปลงใส่แผงโซล่าเซลอยู่บนหลังคารถ และมีแผลโซล่าเซล ติดตั้งอยู่นอกรถอีก 1 แผง ภายในรถมีอุปกรณ์ตัวแปลงไฟฟ้า มีสิ่งอำนวยความสะดวกในรถทั้งทีวี เครื่องเสียง และกาน้ำร้อน
สอบถามนายอาวุธ คะบวนรัมย์ อายุ42ปี บ้านเลขที่149 ม.4 ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เจ้าของที่ดินและเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนกับผู้ตายเคยทำงานในบริษัทโรงไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ตำแหน่งช่างไฟฟ้า แต่ถูกเลิกจ้างตอนโรคโควิดระบาด
หลังจากนั้นเพื่อนซึ่งได้เงินสวัสดิการจากประกันสังคม ได้หันมาใช้ชีวิตแบบนกขมิ้นเหลืองอ่อน แต่งรถให้สามารถนอนแคมป์ปิ้ง ไปคนเดียวและนอนคนเดียวมาโดยตลอดเพราะไม่มีครอบครัว
วานนี้เพื่อนมาขอจอดรถนอนแคมป์ปิ้งอยู่ในหมู่บ้านบอกว่าอยากจะสัมผัสบรรยากาศแบบบ้านนอก จึงให้มาจอดบนที่ดินของตน ก่อนจะนอนเพื่อนยังมาคุยว่าจะขอนอนที่นี่คืนสุดท้าย จะไม่อยู่แล้วไม่ได้คิดอะไรคิดว่าเพื่อนจะเดินทางไปนอนที่อื่นต่อ พอรุ่งเช้าตนจะเอาอาหารหมู เดินผ่านเห็นยังไม่ตื่นจึงไปปลุกพบว่าตัวแข็งแล้วจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว
ทั้งนี้ยังไม่สามารถคาดการณ์ถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้ เพราะอากาศไม่หนาว เบื้องต้นตำรวจได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง