ปราจีนบุรี ช้างป่าฤาไนวิ่งไล่ทำร้ายลุงเฉียดตาย
1 min readวันที่ 15 ธค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรับแจ้งว่าที่บ้านวังมะกรูดหมู่ที่ 4 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่ามีช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา วิ่งไล่ทำร้ายชาวบ้านวัดระยะทางได้ 250 เมตร ระหว่างทางรถจักรยานยนต์แหกโค้งทิ้งรถวิ่งหนีออกจากป่ารอดตายยังหวุดหวิด ทราบชื่อลุงสมัย รักษาทรัพย์ อายุ 65 ปีอยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ที่ 4 บ้านวังมะกรูด ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ลุงสมัยได้พาผู้สื่อข่าวผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่าวังท่าช้างไปยังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นป่ายูคาลิปตัสห่างจากหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร ลุงสมัยเล่าว่าขณะที่ออกมาสำรวจแปลงป่ายูคาลิปตัส ขับรถจักรยานยนต์มาตามทางระหว่างนั้นได้ยินเสียงร้องแปร๊นๆๆ
3ครั้งอยู่ข้างหน้าเมื่อหันไปมองทางด้านซ้ายมือผมช้างป่าตัวใหญ่มีงายืนอยู่ในระยะ 3 เมตรวินาทีนั้นรู้สึกตกใจและหวาดกลัว จึงรวบรวมสติมองไปข้างหน้าแล้วตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซค์หนีเพื่อเอาตัวรอด ขณะเดียวกันช้างป่าได้วิ่งไล่ทันที จึงเร่วเครื่องรถจักรยานยนต์หนีและหันมามองข้างหลัง เห็นช้างวิ่งไล่รถตามมาติดๆฝุ่นคลุ้งพร้อมส่งเสียงร้องเป็นระยะๆ รถมอเตอร์ไซค์วิ่งเร็วไม่ได้นึกในใจยังไงก็หนีไม่รอดต้องถูกช้างทำร้ายตายอยู่ในป่าแน่นอน
หันมองด้านหลังช้างวิ่งไล่ไม่หยุดถึงแม้ว่าระยะทางจะไกล แต่ช้างวิ่งไล่ไม่หยุดเมื่อมาถึงทางโค้งรถมอเตอร์ไซค์เสียหลักล้มลง จึงรีบวิ่งล้มลุกคลุกคลานเพื่อนหรือเอาตัวรอด ช้างวิ่งเข้ามาในระยะประชิดจึงรวบรวมพลังวิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านซึ่งอยู่ห่างจุดดังกล่าวประมาณ500เมตร เพื่อนบ้านได้รีบโทรแจ้งผู้ผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ให้จิตอาสาเข้าไปเอารถจักรยานยนต์ของลูกบ้านออกมาจากจุดเกิดเหตุ
1 ชั่วโมงต่อมาชุดจิตอาสาได้นำรถไถมาดันเปิดทาง เพื่อที่จะเข้าไปเอารถจักรยานยนต์ของลุงสมัยออกมา เมื่อมาถึงตำแหน่งที่รถมอเตอร์ไซค์ของลุงสมัยล้มอยู่ริมทาง พบว่ารถมอเตอร์ไซค์ยังติดเครื่องยนต์อยู่ และช้างก็ยังอยู่บริเวณใกล้เคียงจึงทำการผลักดันช้างป่าออกจากบริเวณดังกล่าวเพื่อความปลอดภัย ต่อมาทีมจิตอาสาได้นำโดรนมาบินสำรวจบริเวณป่ายูคา พบว่าฝูงช้างป่าประมาณ 30 ตัว ผู้ใหญ่บ้านจึงประกาศแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระวังช้างป่า หากออกมาไร่มาสวนซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าอ้อยและป่ายูคาลิปตัส
นายอภิชาติ ไชยแสงเมือง จิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่ากล่าวว่า หลังได้รับแจ้งจึงนำรถไถมาดันเปิดทางเพื่อที่จะเข้ามาเอารถจักรยานยนต์ของคุณลุงออกจากป่า พบว่ารถจักรยานยนต์ของลุงสมัยยังติดเครื่องอยู่ จึงเดินมายังจุดที่ลุงสมัยพบช้างและช้างได้วิ่งไล่ นำตลับเมตรมาวัดระยะทางวัดได้ 250 เมตร ชาวบ้านยังคงหวาดกลัวช้างฝูงนี้อยู่ ไม่รู้ว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด อาจจะมีมากกว่า 1 ฝูง คาดว่าฝูงช้างป่าจะปักหลักหากินอยู่ในพื้นที่อีกนาน ถึงแม้ว่าทางการจะผลักดันช้างป่าฝูงใหญ่ออกจากพื้นที่ แต่คิดว่าช้างป่าจะต้องหวนกลับมาอีกเพราะมีแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์อยู่ ขณะเดียวกันสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 ปราจีนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่มาเพื่อปฏิบัติการผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่เป็นครั้งที่ 2 ตามนโยบายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่จะเล่นผลักดันฝูงช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด
ทองสุข สิงห์พิมพ์