ป.ป.ส. ตำรวจ บุกค้นชุมชน 50 เป้าหมาย กวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดรายย่อย
1 min readสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับกองบัญชาตำรวจนครบาล และหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บูรณาการร่วมกัน เปิด “ยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย ครั้งที่ 2/2567” กวาดล้างผู้ค้ารายย่อยและนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 50 เป้าหมาย
พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตำรวจกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กว่า 250 นาย และสุนัข K9 ปล่อยแถว เปิด“ยุทธการเด็ดปีกผู้ค้ารายย่อย ครั้งที่ 2/2567” กวาดล้างผู้ค้ารายย่อยและนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 50 เป้าหมาย
พล.ต.อ.ภานุรัตน์ หลักบุญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เข้าตรวจค้นเป้าหมายบ้านผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่ซอยบางบอน 10 เขตบางแค เขตบางแค กรุงเทพมหานคร พบบุุคคลตามหมายจับ 2 คน คือนายอานนท์ หัวหน้าราษฎร์ และนางวรรณวิษา ศรีจันทร์ พบของกลางยาบ้า 8 มัด จำนวนกว่า 16,000 เม็ด, ยาอีประมาณ 200 เม็ด และคีตามีน 1 กิโลกรัม พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นเงินสด 2 จำนวน 86,800 บาท พระเครื่อง 5 รายการ รถยนต์ 2 คัน จักรยานยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม เครื่องเสียงมาร์แชล 1 เครื่อง รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 543,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิดหรือไม่
อีกหนึ่งในเป้าหมายที่ผู้สื่อข่าวติดตามเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. กับตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ พร้อมสุนัข k9 เข้าตรวจค้น คือชุมชนวัดวงลาภาราม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร จากการตรวจค้น 9 หลังคาเรือน เบื้องต้นพบยาบ้า และเฮโรอีน จำนวนเล็กน้อยในลักษณะมีไว้เสพ ก่อนควบคุมตัวผู้ครอบครองยาเสพติด เอาตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด และนำเข้าสู่โครงการรักษาผู้เสพ เข้ารับการบำบัดเป็นผู้ป่วย
พล.ต.อ.ภานุรัตน์ กล่าวว่าปฏิบัติการณ์ครั้งนี้เน้นไปที่ผู้ค้ารายย่อยในชุมชนหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้าน และข้อมูลการข่าว จนสืบทราบเป้าหมายเป็นผู้ค้ายาเสพติดในชุมชน แม้การตรวจค้น 50 เป้าหมายในวันนี้ จะสามารถจับผู้กระทำความผิดครอบครองยาเสพติดได้จำนวน 2 คน และของกลางจำนวนหนึ่ง ดำเนินคดีกับกลุ่มเป้าหมาย 11 คดี แต่จุดประสงค์หลักในการตรวจค้นวันนี้ คือการลงพื้นที่ชุมชนสร้างความเชื่อมั่นและความศรัทธาให้กับชุมชน ต่อผู้บังคับใช้กฎหมาย เพราะที่ผ่านมาการชี้เบาะแสของปัญหายาเสพติดส่วนใหญ่ เป็นชาวบ้านในชุมชนหรือผู้นำชุมชน ทำให้เกิดการปฏิบัติการในโครงการนี้เกิดขึ้น และส่งเสริมให้ชุมชนเข้มแข็ง ปลอดยาเสพติด
อีกส่วนหนึ่งคือการตรวจหาผู้เสพติดในชุมชนต่าง ๆ ให้เข้าร่วมโครงการคัดกรองผู้เสพให้เข้ารับการบำบัดภาคสมัครใจ ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานอนามัยกรุงเทพมหานคมหานคร ซึ่งวันนี้มีผู้สมัครใจเข้ารับการบำบัดจำนวน 7 คน
สำหรับการนำผู้เสพเข้ารับการบำบัดที่ผ่านมา ทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้จัดทำโครงการ Quick win สำรวจพบผู้ติดสารเสพติดทั่วประเทศกว่า 4,000 คนที่ไม่สามารถใช้ชีวิตในชุมชนได้ โดยมีประมาณ 700 คนที่เข้าร่วมโครงการบำบัดยาเสพติดแล้ว
ส่วนกรณีที่สถานบันเทิงมีการขยายเวลาในการปิดถึงตีสี่ในพื้นที่ ที่ได้รับอนุญาตนั้น
พลตำรวจโทภาณุรัตน์ ระบุว่ามีความกังวลว่า นักท่องเที่ยวและเยาวชนจะสามารถเข้าถึงยาเสพติดเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามจะเรียกทางผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่อาจเข้ามาเจรจาในการป้องกันและปราบปรามการจำหน่ายและเสพยาเสพติด หาก มีมาตรการที่เข้มข้นและตักเตือนไปแล้วยังไม่ให้ความร่วมมือก็จะใช้มาตรการตามกฏหมาย เช่น การสั่งปิดสถานบันเทิงห้าปี และการสั่งปิดชั่วคราว 30 วัน