ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมอดีตนางงาม หลอกปล่อยเช่าบ้านพักทิพย์ พบหมายจับติดตัว 4 หมาย
1 min readตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.เอนก บุญตา, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์ รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.พัฒน์ คล้ายวัฒนะ สว.กก.4 บก.ป. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม น.ส.เตชิณีฯ อายุ 43 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4507/2566 ลงวันที่ 29 พ.ย.2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกงประชาชนและนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการน่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าแมนชั่นในพื้นที่ ซอยสุขุมวิท 6 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้ต้องหาได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความลงในเฟซบุ๊กของผู้ต้องหาว่าปล่อยเช่าบ้านพัก ทำเลดี ราคาถูก ซึ่งต่อมาได้มีผู้เสียหายติดต่อขอเช่าบ้านพักหลังดังกล่าว โดยเมื่อผู้เสียหายตกลงเช่าบ้านพักหลังดังกล่าวเเล้ว ผู้เสียหายจึงได้โอนเงินชำระค่าเช่าบ้าน และต่อมาผู้เสียหายได้สอบถามถึงเอกสารยืนยันความเป็นเจ้าของบ้านจากผู้ต้องหา ซึ่งผู้ต้องหาไม่สามารถยืนยันความเป็นเจ้าของบ้านหลัง
ดังกล่าวได้ ทั้งสองจึงได้ยกเลิกสัญญาเช่าดังกล่าว โดยผู้ต้องหาแจ้งว่าจะคืนเงินค่าเช่าให้ แต่ภายหลังผู้ต้องหากลับหลบหนีและไม่ยอมคืนเงินให้แก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานพขอศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหา จนทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีการจับกุมมาพักอาศัยอยู่ที่ย่านสุขุมวิทซอย 6 เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ โดยพบผู้ต้องหาปรากฏตัวอยู่บริเวณหน้าแมนชั่นในพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและจับกุมตัวผู้ต้องหา จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหานี้ยังมีหมายจับติดตัวอีกจำนวน 3 หมายจับ โดยเป็นของ สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต, สภ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร และหมายจับระหว่างพิจารณาคดีของศาลอาญา กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ยังพบอีกว่าในแหล่งข้อมูลเปิด พบชื่อของผู้ต้องหาเคยมีผู้เสียหายแจ้งเตือนเรื่องการฉ้อโกงเกี่ยวกับบ้านเช่าอีกด้วย
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า หลอกลวงผู้เสียหายจริง เพราะต้องการใช้เงิน เนื่องจากธุรกิจส่วนตัวมีปัญหา