อัยการพิจิตร ใช้กฎหมายช่วยชาวนาบีบสหกรณ์คายเงิน7ล้านจ่ายหนี้ค่าข้าวเปลือกแนะแจ้งความดำเนินคดี
1 min readทุกข์ของชาวนาพิจิตรที่ไว้วางใจนำข้าวเปลือกมาขายให้สหกรณ์การเกษตรหวังได้ราคาแต่สุดท้ายนานข้ามปีก็ยังไม่ได้เงินรวมตัวร้องทุกข์ผ่านสื่อจึงได้อัยการฝ่ายคุ้มครองสิทธิ์เข้ามาโอบอุ้มบังคับใช้กฎหมายไกล่เกลี่ยเป้าหมายอยากให้ชาวนาได้เงิน วันนี้เบื้องต้นได้บทสรุปสหกรณ์ยอมคายจ่ายหนี้ 7 ล้าน จาก 122 ราย รวมยอดเงิน 22 ล้านบาทเศษ วันนี้เฉลี่ยจ่ายเอาไปก่อน 30% ต่อจากนี้ ชมรมทนายอาสาพิจิตร รับหน้าที่พาชาวนาแจ้งความฟ้องดำเนินคดี
วันที่ 23 มกราคม 2567 นายอนันต์ คลังเพชร อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพิจิตร มอบให้ นายประเสิรฐ ใจสนธิ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ลงพื้นที่เพื่อไปทำหน้าที่ในการใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาจากกรณีที่ชาวนาในเขตอำเภอวังทรายพูน จ.พิจิตร จำนวน 101 ราย ที่นำข้าวเปลือกไปขายให้กับ สหกรณ์การเกษตรวังทรายพูน ตั้งแต่เดือน พ.ย. 66 คิดเป็นมูลค่า 22 ล้านบาทเศษ ชาวนาไปทวงถามสหกรณ์ฯ ก็ผลัดผ่อนประวิงเวลาไม่มีเงินจ่ายให้ชาวนา โดยอ้างว่าสหกรณ์ฯรับซื้อรวมรวมผลผลิตแล้วขายส่งต่อให้กับโรงสีแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ดงเจริญ และรายอื่นๆ แต่ปรากฏว่าโรงสีไม่นำเงินมาจ่าย ดังนั้นสหกรณ์ก็จึงไม่มีเงินจ่ายชาวนากลุ่มดังกล่าวจึงได้ส่งตัวแทนมาร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือกับอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดพิจิตร ซึ่งได้รับเรื่องร้องทุกข์ร้องเรียนดังกล่าว
โดยในวันนี้ นายประเสิรฐ ใจสนธิ์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ลงพื้นที่ไปยังสหกรณ์การเกษตรวังทรายพูน โดยได้เชิญ นางสุจินดา อินทร์สุข ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรวังทรายพูน และประธานสหกรณ์ฯ รวมถึง นายจอมชัย รอดทัดทาน สหกรณ์จังหวัดพิจิตร , นายวิศิษฎ์ มานะคิด นายอำเภอวังทรายพูน , นายกมลยุทธิ์ บุสดี ทนายความ และ นายกิจชัย บุญปู่ ทนายความ ตัวแทนจาก ชมรมทนายอาสาพิจิตร รวมถึงผู้นำส่วนท้องถิ่นและตัวแทนเกษตรกรเข้าร่วมรับฟังการไกล่เกลี่ยระหว่างอัยการกับผู้จัดการสหกรณ์ โดยมีการสืบค้นข้อมูลหาเงินสดและทรัพย์สินต่างๆ ของสหกรณ์ฯ ที่สามารถจะรวบรวมเป็นเงินว่ามีเท่าไหร่ที่จะจ่ายหนี้ให้กับชาวนาทั้งหมด 101 ราย
ซึ่งได้ข้อสรุปว่าสหกรณ์มีเงินสด-มีสลาก ธกส.และสามารถหยิบยืมจากเครือข่ายสหกรณ์รวมแล้วมีเงินสดพร้อมจ่ายให้ชาวนาในวันนี้ได้ 7 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของยอดรวมหนี้สินที่สหกรณ์ฯ จะต้องจ่ายให้กับชาวนาทั้งหมด คือ 101 ราย 22 ล้านบาทเศษ ซึ่งหลังจากได้ผลสรุปก็ได้แจ้งให้ชาวนาทราบว่าขอให้รับเงินก้อนแรกไปก่อนและหลังจากนี้ให้แต่งตั้งตัวแทนชาวนา 15 ราย ประสานกับ นายกมลยุทธิ์ บุสดี ทนายความ และ นายกิจชัย บุญปู่ ทนายความ ตัวแทนจาก ชมรมทนายอาสาพิจิตร เพื่อไป สภ.วังทรายพูน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรวังทรายพูน ซึ่งถ้าหาเงินมาจ่ายได้ก็ถอนแจ้งความได้ แต่ถ้าหาเงินมาไม่ได้ก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยชาวนาต่างพึงพอใจที่วันนี้ได้เงินบางส่วนและจัดคิวเพื่อเข้ารับเงินสด ซึ่งจะจ่ายกันภายในวันนี้ที่สหกรณ์ฯ ดังกล่าวอีกด้วย สำหรับความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะได้รายงานต่อไปเพื่อสาวให้ถึงว่าโรงสีที่เอาข้าวเปลือกจากสหกรณ์ไปคือโรงสีอะไรจึงได้มีพฤติกรรมที่ทำให้ชาวนาและสหกรณ์เดือดร้อนดังกล่าว