แม่พาลูกชายนักศึกษาหนุ่ม ร้องทนายดังหลังถูกตำรวจเจรจาไกล่เกลี่ยเรียกค่าเสียหาย 3.5 แสนบาทข้อหาผิด พรบ.คอม จนลูกชายเกือบฆ่าตัวตาย
1 min readเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 ก.พ. 67 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นางวาสนา ขอสงวนนามสกุล อายุ 58 ปี นำลูกชายคือนายชนายุส หรือ น้องพลับ อายุ 19 ปี นักศึกษา ชั้นปีที่ 1 คณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ย่านธนบุรี เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรม จากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธาานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือติดตามคดี หลังลูกชายตกเป็นผู้ต้องหาละเมิด พรบ. นำเข้าสู่ข้อมูลอันเป็นเท็จ และมีเจ้าหน้าที่ ตำรวจ เป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ยให้ชดใช้เงินจำนวน 350,000 บาท ทั้งที่ลูกชายของตนเอง ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดตามที่ถูกกล่าวหา
นางวาสนากล่าวว่า ช่วงที่ลูกชายตนเองอายุ 18 ปี และเรียนอยู่ชั้น ม. 6 โรงเรียนวัดอินทร์ ได้ถูกรุ่นพี่กับเพื่อนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน แจ้งตำรวจ สน.บางยี่เรือ กล่าวหาว่าลูกชายนำภาพลามกของเพื่อนรุ่นพี่ผู้หญิงไปโพสต์ในกลุ่ม ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงถูกแจ้งความดำเนินคดี
หลังเกิดเหตุตนพยายามสอบถามลูกชายก็พบว่าเขาไม่ได้กระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหา จึงพยายาม เจรจา พูดคุย อธิบาย ให้ทางฝ่ายรุ่นพี่ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหาย ให้เข้าใจ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จนกระทั่งเพื่อนในกลุ่มของรุ่นพี่ผู้หญิงคนนี้ได้บุกเข้าไปที่โรงเรียนด่าทอและต่อว่าลูกชายตนเอง ต่อหน้าอาจารย์ พร้อมพูดว่า “จะทำให้ลูกชายของตนเองไม่สามารถอยู่ในประเทศนี้ได้เลย” เนื่องจากเอารูปภาพลามกของนางสาวจอย นามสมมุติ ไปโพสต์ในกลุ่ม ซึ่งลูกชายตนเองก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่เรื่องจริงเนื่องจากลูกชาย ได้ขายไฮเทมไปก่อนหน้าที่จะมีรูปภาพของ เพื่อนรุ่นพี่หญิงสาวรายนี้ปรากฎออกไป
ตนได้ให้ทางตำรวจ Cyber ตรวจสอบแล้วก็ไม่พบว่า ภาพที่หลุดออกไปมาจากเครื่องโทรศัพท์มือถือของลูกชายตน น่าจะมีคนสร้าง Discount ปลอม แล้วนำไปเผยแพร่ เมื่อนำหลักฐานการตรวจสอบจากตำรวจไซเบอร์ไปให้พนักงานสอบสวน สน.บางยี่เรือดูก็ไม่สนใจ นิ่งเฉย อ้างว่าลูกตนตกเป็นผู้ต้องหาแล้วเป็นฝ่ายกระทำความผิดไม่มีสิทธิ์โต้แย้ง โดยนัดตนและลูกชายพร้อมทั้งคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาที่ สน. บางยี่เรือ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 65 และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยศพันตำรวจโทระดับรองผู้กำกับ เป็นตัวแทนเจรจาไกล่เกลี่ยให้กับทางฝ่าย เขาโดยเรียกร้องให้ตนเองจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณีเป็นจำนวนเงิน 350,000 บาทจะได้จบคดี ตนเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงต้องมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์เพื่อขอให้ช่วยเหลือ
ขณะที่ น้องพลับ กล่าวว่า ตนได้ขายไฮเท็ม ตนได้ขายไอเทมไปตั้งแต่เมื่อปี 64 แต่แล้วจู่ๆ กลับถูกเพื่อน รวมทั้งรุ่นพี่ผู้หญิงโรงเรียนเดียวกัน กล่าวหาว่ากระทำความผิด นำภาพลามกไปเผยแพร่ในกลุ่ม และสร้าง Discount ซึ่งไม่ใช่ของตนเอง ” ตอนนั้นตนเองรู้สึกเครียดมากกำลังจะสอบเข้ามหาลัย และคิดจะฆ่าตัวตาย โชคดีที่ได้คุณแม่คอยปลอบใจและช่วยเหลือให้กำลังใจ ตนเองตลอดมา ต้นยืนยันไม่ได้เป็นผู้เผยแพร่ภาพของเพื่อนรุ่นพี่ผู้หญิงจริงๆ”
ทางด้านทนายรณรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นคงต้องตรวจสอบหลักฐานรายละเอียดจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สนบางยี่เรือ ว่าน้องเขา กระทำความผิดจริงหรือไม่ เพราะตนก็ยังไม่ได้พูดคุยกับทางฝ่ายรุ่นพี่ผู้หญิง จึงยังไม่สามารถให้ข้อมูลรายละเอียดมากกว่านี้ได้แต่จะพาน้องเขาไปร้องเรียนขอความเป็นธรรม จากทาง พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อทำความจริงให้กระจ่าง ส่วนการเจรจาไกล่เกลี่ยนั้น เป็นเรื่องของทั้งสองฝ่ายที่จะพูดคุยกัน ตามกฎหมายแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธิ์ออกมาพูดคุยหรือเป็นตัวแทนเรียกร้องค่าเสียหายให้กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้