หนุ่มก่อสร้างพาแฟนท้อง 2 เดือนเดินเท้าจากโคราชกลับจันทบุรี
1 min read
วันที่ 20 กพ.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่าพบชาย-หญิง2คนเดินเท้าแบกถุงปุ๋ยใบใหญ่บนถนนสาย 304 ขาล่องฉะเชิงเทราบริเวณบ้านหนองนมหนู ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จึงได้สอบถามชายหนุ่มคนดังกล่าวด้วยความเหนื่อยล้า นั่งพักที่ศาลาริมทางเพื่อให้หายเหนื่อย จากการสอบถามชายหนุ่มชื่อนายคมสันต์ พรมภักดี อายุ 30 ปีบ้านเดิมอยู่ที่ 155 หมู่ 13 ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ แฟนสาวชื่อนส.กรรณิการ์ แสนตำแย ชาวจังหวัดขอนแก่น อยู่กินด้วยกันมา 8 เดือน แฟนสาวท้องได้ 2 เดือน ก่อนหน้านี้ทำงานเป็นลูกจ้างกับผู้รับเหมาก่อสร้างที่จังหวัดนครราชสีมา ต่อมานายจ้างทิ้งงานปล่อยคนงานลอยแพ จึงตัดสินใจพาแฟนเดินเท้าจาก
อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา ตั้งใจว่าจะพาแฟนอยู่บ้านยายที่จังหวัดจันทบุรี
พาแฟนเดินเท้าออกจากปักธงชัยตั้งแต่วันที่ 14 กพ.ที่ผ่านมา (รวม7วัน) มีเงินติดตัวอยู่ไม่กี่ร้อยค่ำไหนนอนนั่น ไม่มีตังค์ซื้อข้าวกินเดินมาตามทางไม่มีใครมาสอบถามถึงที่หมายที่ไป อาจเป็นเพราะว่ากลัวว่าตนเองกับแฟนสาวเป็นพวกหลอกลวง ไม่มีตังค์กินข้าวขอน้ำจากชาวบ้านใส่ขวดกินมาตามทาง หิวอาศัยหาเก็บมะขาม ผักกระถิน หรือยอดผักอะไรที่กินได้ขึ้นอยู่ริมทางเพื่อประทังความหิวไปวันๆ แฟนเป็นคนขี้อายไม่ค่อยพูดตลอดระยะเวลาที่เดินมาด้วยกันต่างให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็จะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันให้ถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้
ด้วยความหิวผู้สื่อข่าวจึงพาไปซื้อน้ำและซื้อขนมที่ร้านสะดวกซื้อ นายคมสันซื้อน้ำ 1 ขวดใหญ่แลคตาซอย 2 กล่องขนมปัง 2 อัน 60 กว่าบาท และพา2 สามีภรรยาไปแวะกินข้าวที่ร้านอาหารตามสั่งริมทาง โดยสั่งข้าวผัดกระเพราหมูคนละ 1 ชาม ด้านเจ้าของร้านเข้ามาสอบถามรู้สึกสงสารและไม่คิดเงินค่าข้าวและได้ตักต้มจืดมาให้กินอีก 1 ถ้วยบอกทั้งสองกินให้อิ่ม รู้สึกดีใจด้วยที่ได้เจอนักข่าวใจดี ซื้อของให้กินเจ้าประทังทำหิว วันนี้ข้าวผักกระเพราที่ซื้อให้ทางร้านไม่คิดเงิน ยินดีทำให้กินฟรีๆ ทั้งสองจึงพากันยกมือไหว้กล่าวขอบคุณเจ้าของร้านที่เมตตาให้กินข้าว 1 มื้อ
ป้าสมนึก ทองศรี และสมใจ ทองศรี เจ้าของร้านตามสั่งริมทาง ได้ให้กำลังใจ 2 สามีภรรยาขอให้เดินทางกลับไปหาญาติที่จันทบุรีด้วยความปลอดภัย โดยทั้งสองจะขอเดินเท้ากลับไปหาที่พักในคืนนี้ โดยอาจจะไปขอนอนพักที่สถานีตำรวจภูธรกบินทร์บุรี เดินทางกลับไปหายายที่จังหวัดจันทบุรีต่อไป
ทองสุข สิงห์พิมพ์