“ศรีสะแกษ” เขยโหดบุกยิงแม่ยายดับคาบ้าน อ้างถูกครอบครัวภรรยาดูถูก

“ศรีสะแกษ” เขยโหดบุกยิงแม่ยายดับคาบ้าน อ้างถูกครอบครัวภรรยาดูถูก

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งมีเหตุ นายนิคม กองสูงเนิน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 หมู่ 13 ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ยิง นางวันดี เป็งทอง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 299 หมู่ 13 บ้านนาจะเรีย ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นแม่ยายของผู้ก่อเหตุ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้เสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.ขุขันธ์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2567 เวลา 17.30 น. โดยที่เกิดเหตุเป็นบ้านของผู้ตาย หลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีเข้าป่าบริเวณแนวเทือกเขาพนมดงรัก ติดเขตชายแดนไทย-กัมพูชา

ล่าสุด เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ที่บ้านเลขที่ 299 หมู่ 13 บ้านนาจะเรีย ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ที่เกิดเหตุ ไปพบกองขี้เถ้าที่ชาวบ้านและญาติๆเอากองไว้ตรงจุดที่ นางวันดี เสียชีวิต ซึ่งถือพิธีบอกกล่าวเจ้าที่ เจ้าป่าเจ้าเขา ให้ช่วยจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

นางใบ ศรีสะอาด อายุ 65 ปี เพื่อนบ้านของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า ตอนเกิดเหตุตนกำลังนั่งเล่นอยู่ที่บ้านของตน อยู่ๆก็ได้ยิงเสียงดังคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 1 ครั้ง ดังมาจากที่บ้านของผู้ตาย จึงได้รีบวิ่งไปดู ขณะกำลังวิ่งไปที่บ้านหลังดังกล่าวนั้น ปรากฏพบว่า เห็นมีชายคล้ายลูกเขยของผู้ตายวิ่งออกมาจากบ้าน แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป พอตนเข้าไปดูที่หน้าบ้านของผู้ตายก็พบร่างของ นางวันดี นอนแน่นิ่งมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืน กระสุนฝังในเจาะเข้าที่บริเวณลำคอฝั่งขวา เลือดไหลนองพื้น หายใจรวยรินอยู่ ตนจึงรีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ด้าน นายธนาศักดิ์ เป็งทอง อายุ 47 ปี ลูกชายของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุน้องสาวของตน ที่เป็นแฟนกับผู้ก่อเหตุ โทรมาบอกว่า นายนิคม (ผู้ก่อเหตุ) ข่มขู่ว่าจะมาฆ่าแม่ของตน และน้องเขยตนอีกคน รวมถึงจะฆ่าตนด้วย เนื่องจากอ้างว่าไม่พอใจที่ครอบครัวตนดูถูก ซึ่งจริงๆแล้วครอบครัวตนก็ไม่เคยคิดดูถูกผู้ก่อเหตุเลย หลังถูกข่มขู่ดังกล่าวแล้ว ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงได้เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.ปรือใหญ่ ในบ่ายของวันที่ 1 มี.ค. 2567 ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน นายนิคม ผู้ก่อเหตุ ก็ได้มาก่อเหตุยิงแม่ของตนถึงในบ้าน จริงๆ ซึ่งปกติที่บ้านหลังเกิดเหตุจะอยู่กัน 3 คน คือ แม่ตน ผู้ตาย หลานชาย และตน แต่ช่วงที่เกิดเหตุขณะนั้นแม่ตนอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีคนอยู่ด้วย จึงไม่มีคนช่วยแม่ของตน ทั้งนี้ตนไม่ยอมให้อภัยการกระทำของผู้ก่อเหตุ อยากจะให้ผู้ก่อเหตุรับกรรมชีวิตแลกชีวิตกันไปเลย.

ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ // รายงาน

        

        Loading...