อดีตทหารผ่านศึกยศ ร้อง “ทนายรณรงค์” โดนคู่กรณีต่อยจนเกือบป่วยติดเตียงคดีไม่คืบ
1 min readเมื่อเวลา 16.00 น วันที่ 8 มีนาคม 67 ที่สำนักงานทนายความ คู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จ่าสิบเอก ศุภชัย จารุจารีต อายุ 77 ปี อดีตทหารผ่านศึก ผ่านสมรภูมิรบ เวียดนาม ลาวมายังโชกโชน ปัจจุบันยึดอาชีพขับรถแท็กซี่ยังชีพเพื่อหาเป็นรายได้เลี้ยงตนเอง
จ.ส.อ.ศุภชัย เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 มกราคม 67 ตนเองได้ขับรถแท็กซี่ รับผู้โดยสารไปส่งยัง หมู่บ้านพฤกษา 57 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ระหว่างนั้นได้มีหญิงสาวขี่รถจยย. มาเฉี่ยวชนรถของตนเองจนกันชน หน้ารถเสียหาย ส่วนตัวหญิงสาว รถ จยย.พลิกคว่ำ ตนลงจากรถเพื่อที่จะไปดูและถามอาการ พบว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่หญิงสาวคนดังกล่าว ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรคาดว่าน่าจะเป็นแฟนหนุ่ม โดย แจ้งว่าถูกแท็กซี่ชน ให้รีบมาที่เกิดเหตุ
ให้หลังไม่นาน ได้มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ อายุประมาณ 30-35 ปี ขี่ จยย. มาถึง และถามหญิงสาวว่า ใครชนมึง จากนั้นก็เดินตรงมาหาตนที่รถก่อนพูดว่า มึงชนเมียกูทำไม ไม่ทันที่ตนจะอธิบาย เขาก็ชกเข้าใบหน้าตนเองอย่างแรงจนล้นคว่ำ กองกับพื้น ตอนนั้นตนเจ็บไปหมดลุกก็ไม่ขึ้น พยายามจะอธิบาย แต่เขาไม่เปิดโอกาส ตนได้แต่พูดว่า ตนอายุเยอะแล้วมาทำร้ายตนแบบนี้ทำไมมีอะไรค่อยๆคุยกัน เขากลับไม่สำนึก เอาเท้าเหยียบตน แล้วพูดว่า “ไอ้สัตว์ ! อายุเยอะแล้วใครให้มึงมาขับแท็กซี่วะ” ก่อนจะพาภรรยาขี่รถออกไป
ต่อมามีเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ได้มาที่เกิดเหตุและนำตัวตนส่งโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ แต่อาการไม่ดีขึ้นจึงต้องส่งตัวต่อไปที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก เอกซเรย์พบว่า สะโพกขวากระดูกแตก ต้องนอนพักรักษาตัวนานกว่าครึ่งเดือน นอกจากนี้ตนพึ่งผ่าตัดตาเพราะเป็นต้อกระจกมาทำให้การมองเห็นแย่ลง จึงให้ลูกชายพาเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.คูคต เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 67 เพื่อให้ช่วยติดตามคนที่ทำร้ายตนเองมาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย
ขณะที่นายรณณรงค์ กล่าวว่า ผู้เสียหายรายนี้ อายุถึง 77 ปีแล้ว ยังใช้ความรุนแรงกับเขา การกระทำเช่นนี้เข้าข่ายการทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัส ตนจะพาไปพบพนักงานสอบสวน สภคูคต เพื่อสอบถาม และติดตามคดีว่ามีความคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว เรื่องนี้สามารถเอาผิดคนที่ทำร้ายได้เลย แต่ทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงยังไม่มีการเรียกตัว หรือนำตัวคนก่อเหตุ มาดำเนินคดีได้