จันทร์. พ.ย. 25th, 2024

ข่าวชัด Khaochad.co.th

ข่าวสารฉับไว ชัดตรงประเด็น สื่อความมั่นคงของชาติ

แม่ค้าสาวร้อง”ทนายรณรงค์”ถูกมิจฉาชีพหลอกให้หม้อทอดไฟฟ้าฟรี สุดท้ายสูญเงินเกือบ 3 ล้าน

1 min read

เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 12 มี.ค. 67 ที่มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม น.ส.ศุภรัตน์​ อายุ 30 ปี แม่ค้าขายอาหารออนไลน์ ผู้เสียหาย​ เดินทางมาร้องขอให้ช่วยเหลือหลังถูกมิจฉาชีพทำเป็นขบวนการอ้างบริษัทอีคอมเมิร์ซชื่อดัง โทรหาด้วยเบอร์ 02​ และหลอกว่าเป็นสมาชิกชั้นดีได้รับสินค้าเป็นหม้อทอดไร้น้ำมันฟรี ก่อนให้แอดไลน์เข้ากลุ่ม และใช้กลยุทธ์หลอกให้ร่วมบริจาคเงินให้กับเด็ก แล้วจะได้เงินกำไรตอบแทนกลับมา 30 เปอร์เซ็นต์จากที่ลงทุนบริจาคไปจนหลงเชื่อร่วมลงทุน เพียง 1 วัน สูญเงินไปกว่า 2.8 ล้านบาท และยังถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้ถ่ายคลิปโชว์ส่วนบนส่งให้แลกกับการเอาเงินที่ลงทุนไปออกมาคืน แต่ก็ถูกหลอกซ้ำขู่หากแจ้งความคลิปถูกปล่อยว่อนเน็ต

นางสาวศุภรัตน์​ กล่าวว่า​ ตน​เดินทางมาร้องเนื่องจากโดนมิจฉาชีพหลอกว่าเป็นลูกค้าชั้นดีของบริษัทอีคอมเมิร์ซ​แห่งหนึ่ง​ ใช้เบอร์ 02 โทรติดต่อมาและบอกว่าจะได้รับรางวัลเป็นหม้อทอดไฟฟ้าฟรี​ไม่มีค่าใช้จ่าย​ จากนั้นชวนตน Add เข้ากลุ่มไลน์ จากนั้นมิจฉาชีพที่อยู่ในกลุ่มใช้กลยุทธ์​หลอกชักจูงใจให้ตนหลงเชื่อ​ ซึ่งตนก็เชื่อเพราะตนซื้อของกับแอปดังกล่าวมาหลายปีและเดือนนึงยอดซื้อเยอะ​ ทำให้ไม่ได้เอะใจอะไรเพราะมิจฉาชีพติดต่อมาว่าตนเป็นลูกค้า VIP จะได้รับหม้อทอด ตนจึงแอดไลน์ส่งที่อยู่ไปให้​ จากนั้นมิจฉาชีพแจ้งว่าจะมีเงินค่าเสียเวลาให้และขอคิวอาร์โค้ดจากตน​ ตนจึงส่งไปให้​ และมียอดเงิน 50 บาท​เข้ามาจริง

จากนั้นมิจฉาชีพใช้อุบายหลอกว่าจะมีการบริจาคร่วมกับองค์กร​องค์กรหนึ่ง​ และส่งเป็นตารางกลับมาโดยเป็นตารางเปรียบเทียบยอดบริจาค​ว่าหากตนบริจาคให้ยอด​ 100,000 บาท ตนจะได้เงินคืน​ 130,000 บาท ซึ่งตนก็บริจาคและได้รับเงินกลับมาจริง​ ทำให้หลงเชื่อ​และมีการโอนต่อเพิ่มไปเรื่อยๆจนจบที่ยอด 2.8 ล้าน​บาท และไม่ได้เงินออกมาอีกเลยโดยมิจฉาชีพอ้างว่ามีปัญหาเรื่องระบบผิดพลาด​ จึงไม่สามารถนำเงินออกมาได้และแจ้งอีกว่าหากตนแจ้งตำรวจจะไม่ได้ยอดเงินทั้งหมดคืน

นางสาวศุภรัตน์​ กล่าวอีกว่า​ หลังจากที่เงินตนไม่พอ เพราะมิจฉาชีพอ้างว่าตนจะต้องเสียค่าดำเนินการ​ ดำเนินเอกสารเพื่อที่จะเบิกเงินออกมา​ และตอนนั้นตนไม่มีเงินแล้ว​ ตนจึงแจ้งมิจฉาชีพกลับไปว่าขอปล่อยเงินตรงนี้ไปดีกว่าตนต้องไปกู้เงินคนอื่นมา​ จากนั้นคนในกลุ่มจึงอาสาว่าเดี๋ยวจะช่วยแต่ต้องแลกกับคลิปโป๊ช่วงบนและช่วงล่าง​แต่ขณะนั้นตนเป็นประจำเดือนจึงส่งแค่คลิปช่วงบนให้​ โดยรอบแรกส่งแบบไม่เห็นหน้า​ จากนั้นมิจฉาชีพแจ้งว่าขอแบบเห็นหน้าได้ไหม​ไม่เห็นหน้าแล้วไม่มีอารมณ์​ ตนจึงส่งไปทั้ง 2 คลิป​ทั้งเห็นหน้าและไม่เห็นหน้า พร้อมส่งเลขที่บัญชีไปเพื่อให้เขาโอนเงินคืนมา แต่ได้รับคำตอบว่าไม่โอนและเงียบหายไป​ จนตนไล่บี้​ จนได้คำตอบมาว่า​ “ขอบคุณนะสำหรับคลิป ถือว่าเป็นการทำบุญทำทานให้ละกัน” และมีการข่มขู่ว่าหากตนไปแจ้งความและมีหมายศาลส่งมาจะนำคลิปไปปล่อยในโลกออนไลน์

นางสาวศุภรัตน์​ เผยอีกด้วยว่า​ หลังจากเกิดเหตุตนไปแจ้งความกับตำรวจ​ที่สภ.พุทธมณฑล​ ทางตำรวจแจ้งกับตนว่า​ คดีนี้เป็นคดีก่ำกึ่ง​ว่าตำรวจไซเบอร์จะรับไว้พิจารณาหรือว่าจะส่งกลับมาให้ทางสภ.พุทธมณฑล​สอบ​ เพราะหากส่งกับมาให้สภ.ทำ ตำรวจร้อยเวรที่รับแจ้งความเปิดเผยกับตนว่า​ สภ.ไม่มีศักยภาพพอที่จะไปไล่ตามไล่บี้หรือมีอำนาจขนาดนั้น ทำให้ตนยิ่งเดือดเนื้อร้อนใจเพราะว่าตอนนี้ไม่มีเงินที่จะให้ลูก หรือให้แฟนไปลงทุนต่อ แค่จะกินข้าว 1 มื้อ 50 บาทยังไม่มี จึงต้องดิ้นรน​ และตนมีความคิดว่าจะขายตัว​และคิดสั้นตลอดเวลา​ ตนจึงต้องออกมาวันนี้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตัวเอง​ เพราะมองว่าไม่มีอะไรที่จะต้องเสียอีกแล้ว ตนไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเงินคืนแต่ต้องการให้ตำรวจจับตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีให้ได้

ด้านนายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน​ รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เผยว่า หลังจากนี้ทางมูลนิธิฯ​ จะพาผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์ที่สอท. 2​ ให้เร่งติดตามตัวมิจฉาชีพมารับโทษ โดยเฉพาะคนที่บอกจะเอาคลิปของผู้เสียหายไปเผยแพร่​ต้องเอาตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด​ และเร่งให้รีบออกหมายเรียกบัญชีม้ามาดำเนินคดีและรับทราบข้อกล่าวหาโดยเร็วที่สุดเช่นกัน​

Loading…

You may have missed

Copyright © All rights reserved. | Newsphere by AF themes.