ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านโดนล้วงคองูเห่า หนุ่มวัย18ปีทำทีมาซื้อของก่อนจะฉกมือถืออย่างรวดเร็วสุดท้ายไม่รอด จำนนด้วยกล้องวงจรปิด
1 min readจากกรณีที่มึเฟซบุ๊ชชื่อว่า Tum Chaline’e ได้โพสต์ข้อความว่า “ มึงกล้ามาก ” พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพชายวัย18ปีทำทีเดินมรซื้อของภายในร้านและในภาพจะเห็นว่าชายคนดังกล่าวได้หยิบโทรศัพท์มือถือใส่ในกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบจ่ายเงินแล้วเดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็วซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 08.53 น.ของวันนี้ 15 มีนาคม และต่อมาเวลา 18.00 น.เจ้าของร้านได้รู้ตัวผู้ก่อเหตุชื่อนายเอ อายุ 18ปี (เบลอหน้าด้วยนะครับ)เป็นคนบางแสม อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทราและได้มาจีบสาวในหมู่บ้านพอถึงเวลา นายเอได้มาหาสาวที่จีบไว้เจ้าของร้านและชาวบ้านก็ได้จับตัวแล้วเค้นถามนายเอจึงรับสารภาพและได้เอามือถือมาคืนเจ้าของร้านดังโดยมีผู้ปกครองมาด้วย
ต่อมาวันนี้ 15 มีนาคม 2567 เวลา 21.30 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังร้านขายของชำเจ๊ตุ้มสีชมพู(ป้าวัล)เลขที่ 26/1 หมู่ 6 ต.เกาะลอย อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้พบกับนางสาวมยุรฉัตร บุญลี อายุ 31 ปีเจ้าของร้านเจ้าของโพสต์และเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ต.เกาะลอย และได้ชี้ยังจุดที่ออาโทรศัพท์มือถือวางไว้ในแผงกระกร้าบนเค้าท์เตอร์คิดเงินและชี้กล้อฃวงจรปิดที่ติดในร้านให้ผู้สื่อข่าวดูที่มีจำนวน3ตัวที่ตั้งไว้ดูเค้าท์เตอร์ดังกล่าว
จากการสอบถามนางสาวมยุรฉัตร ได้เล่าว่า ผู้ก่อเหตุอายุเพียง 18 ปีเมื่อช่วงเช้าได้เข้ามาซื้อของทำทีเป็นลูกค้าเหมือนคนปกติทั่วไปในจังหวะที่แม่ค้ากำลังเดินมาอาทิตย์นึงผู้ก่อเหตุได้หยิบโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็วจากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นและไม่มีใครรู้ว่าโทรศัพท์เครื่องที่ทำธุรกรรม ได้ถูกขโมยไปจนกระทั่งหัวค่ำมีลูกค้ามาซื้อของและจะชำระผ่านทางธุรกรรมแต่หาโทรศัพท์ไม่เจอจึงได้มีการเปิดกล้องดูตั้งแต่ช่วงเช้าก็พบว่าโทรศัพท์ถูกขโมยไปจึงได้มีการส่งรูปดูปรากฏว่าไม่ใช่คนในพื้นพื้นที่และได้สอบถามชาวบ้านในชุมชนว่าเคย เห็นชายคนนี้ไหมจนกระทั่งมารู้อีกทีว่าผู้ก่อเหตุได้มาจีบสาวในหมู่บ้านและจะชอบมารับตัวสาวในตอนกลางคืนหลังจากนั้นจึงได้มีการซุ่มรอ จนกระทั่งนายเอผู้ที่ก่อเหตุมาบ้านจึงได้ล้อม จับตัวเอาไว้จากนั้นได้ให้โทรเรียกผู้ปกครอง มายังบ้านผู้หญิงหลังจากที่พ่อมาถึงก็มีอาการโมโหที่ลูกมาก่อเหตุแบบนี้พ่อก็บอกให้ทางตนเองแจ้งความดำเนินคดีไปเลยจะได้เข็ด แต่ตนเห็นว่ายังเป็นเด็กอยู่กว่าจะเสียอนาคตและยอมรับสารภาพกับสิ่งที่ทำผมจึงให้อภัยไม่ได้แจ้งความและสั่งสอนอย่าไปทำแบบนี้ที่ไหนอีกและอยากฝากเตือนภัยถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของไม่ควรวางสิ่งของมีค่าไว้บนโต๊ะหรือรอตาล่อใจเพราะเราไม่รู้ว่าคนไหนมาซื้อของคนไหนมาแบบมิจฉาชีพ ทางนี้ก็ถือว่ายอมรับว่าวางของไว้โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหลังจากนี้ก็ จะเก็บทรัพย์สินที่มีค่าไว้ให้อย่างมิดชิดและครั้งนี้ตนก็ไม่ได้แจ้งความแต่อยากเตือนภัยแค่นั้นเอง
ภาพ/ข่าว สวัสดิ์ ผลชัยภูมิ ทีมข่าวจังหวัดชลบุรี