ฮึ่ม! 1 เม.ย.67 พี่เต้นำทหารผ่านศึก 1-2 หมื่นนาย บุกสภา-เข้าทำเนียบ บี้ พรบ.เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก 3,000 บาท/เดือน

วันนี้ 19 มีนาคม 2567 เวลา 12.00 น. ณ ร้านครัวคุณอิ้น ถ.ราชพฤกษ์ ต.บางรักน้อย จ.นนทบุรี กลุ่มพี่น้องเพื่อน นักรบไทยทุกหมู่เหล่า นำโดย นายอิสระพงษ์ ณ เชียงใหม่(อดีตทหารพราน) ประธานกลุ่มฯ นายอนุรักษ์ ชอบสะอาด ประธานฝ่ายกฎหมายกลุ่มฯ พร้อมด้วย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ-อดีตโฆษกและกรรมาธิการการทหาร-หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ฐานะ ผู้เสนอร่าง พรบ.เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก รอบ 1(กฏหมายตกไปเพราะ ตั้งรัฐบาลใหม่ช้ากว่ากำหนด)

นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ตอนนี้ ร่างแก้ไข พรบ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ…(เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก ผู้ถือบัตร ชั้น 2-3-4 เดือนละ3,000 บาท) รอบ 2 เสนอโดย พี่น้องทหารผ่านศึก กว่า 1 หมื่นรายชื่อ ได้ผ่านขั้นตอนการประชาพิจารณ์ ของ สภาผู้แทนราษฏรไปแล้ว เมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2567 มีผู้สนับสนุนความเห็นกว่า 126,044 ความเห็น เป็น พรบ.การเงิน ขณะนี้ อยู่ที่โต๊ะของ นายเศรษฐา ทวีศิลป์ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องพิจารณา เพราะต้องใช้งบประมาณแผ่นดินประมาณปีละ 8,500 ล้านบาท/ปี ซึ่งในวันที่ 1 เมษายน 2567 นี้จะมีตัวแทนของที่น้องทหารผ่านศึก เหล่า ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ กว่า 10,000-20,000 คน จะเดินทางมาจากทุกจังหวัด มาที่ สภาผู้แทนราษฏร และ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อมาตามทวงถาม นายกรัฐมนตรี ว่าเมื่อใดจะเซ็นผ่าน ร่างแก้ไข พรบ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ…(เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก ผู้ถือบัตร ชั้น 2-3-4 เดือนละ3,000 บาท) กลับเข้า สภาผู้แทนราษฏร เพื่อเข้าสู่ระเบียบวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฏรเสียที พี่น้องทหารผ่านศึกเหล่านี้ มีบุญคุณต่อประชาชนคนไทย ยามหนุ่มพวกเขาเหล่านั้นเสียสละชีวิต เสียสละร่างกาย เสียความสุขส่วนตัว คอยดูแลผืนแผ่นดินไทย คอยต่อสู้กับข้าศึก ไม่ว่าจะสงครามเวียดนาม สงครามร่มเกล้า สงครามกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ฯ คอยดูแลพื้นที่เสี่ยงภัยจุดต่างๆให้ ประชาชนอยู่อย่างสงบสุข ปัจจุบันพวกเขาไม่มีเงินบำนาญ มีแค่เงินค่ารถปีละ 1,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล ส่วนเกินปีละ 4,000 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพในวัยสูงอายุ และความเห็นของประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการให้รัฐบาลใช้ภาษีของประชาชนดูแลชีวิตของเหล่าทหารผ่านศึก เพราะถือว่าพี่น้องทหารผ่านศึกเป็นผู้มีบุญคุณต่อผืนแผ่นดินไทย ประชาชนไทย

นายมงคลกิตติ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า รัฐบาลนี้ต้องหยุดด้อยค่าทหาร หยุดลดกำลังทหาร หยุดเหยียดหยามทหาร หยุดตัดงบทหาร หยุดทำให้ประเทศอ่อนแอ เมื่อใดทหารอ่อนแอ ประเทศจะอ่อนแอ สถาบันพระมหากษัตริย์จะถูกทำลาย ประเทศไทยจะล่มสลาย จะถูกเอาเปรียบจากประเทศเพื่อนบ้านที่แข็งแรงกว่า ขอแบ่งเอาทรัพยากรใต้ท้องทะเล อาทิ ปิโตเลียม ก๊าซธรรมชาติ ในพื้นที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ร่วมด้วยกว่า 26,000 ตร.กม. ไปเป็นของเขาได้